JPARK บวกต่อ 1% มั่นใจปีนี้บริหาร “ลานจอด” แตะ 4 หมื่นช่อง โบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 7.50 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 พ.ค. 67) ราคาหุ้น บริษัท เจนก้องไกล จำกัด (มหาชน) หรือ JPARK  ณ เวลา 11:29 น. อยู่ที่ระดับ 6.45 บาท บวก 0.05 บาท หรือ 0.78% สูงสุดที่ระดับ 6.55 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 6.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 12.69 ล้านบาท

นายสันติพล เจนวัฒนไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JPARK เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสแรกของปี 2567 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 24.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.23 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 135.09% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10.54 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทฯมีรายได้รวมสำหรับไตรมาสแรกของปี 2567 อยู่ที่ 152.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.60 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 36.40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 111.56 ล้านบาท โดยมีรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ในธุรกิจให้บริการที่จอดรถ หรือ PS และจากธุรกิจให้คำปรึกษา และรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ หรือ CIPS

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าบริหารลานจอดรถในปี 2567 แตะ 40,000 ช่องจอด คิดเป็นอัตราการเติบโตมากกว่า 30% ซึ่งมีความมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยบริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการขยายการบริหารจัดการลานจอดรถให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลที่มีศักยภาพสูง โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลัก ๆ คือการเพิ่มขึ้นของจำนวนรถยนต์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 6% ในปี 2567 และการเพิ่มขึ้นของอาคารจอดรถในบริเวณระบบขนส่งสาธารณะ โดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้ามหานครที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 6,000 ช่องจอดภายในปี 2569

โดยบริษัทมุ่งเน้นที่จะเพิ่มสัดส่วนในการเข้ารับงานบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ (PMS) ให้เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีความสามารถในการทำกำไรที่สูง รวมถึงการเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถอัตโนมัติ “Prompt Park” เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ที่มาใช้บริการมากยิ่งขึ้น และสามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า โดยบริษัท JPARK รายงานกำไรปกติไตรมาส 1/67 ที่ 25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 135% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 16% จากไตรมาสก่อน (ไม่มี consensus) การเติบโตเมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน ถูกหนุนจากการขยายธุรกิจพื้นที่บริการที่จอดรถ และโดยเฉพาะธุรกิจที่ปรึกษาและรับติดตั้งระบบซึ่งรับรู้รายได้โครงการ ใหญ่รถไฟฟ้า Smart Parking Management System และGuidance System หนุนรายได้รวมในไตรมาส 1/2567 มาที่ 152 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน, ทรงตัวจากไตรมาสก่อน) และ GPM ขึ้นมาที่ระดับ 28% (เพิ่มขึ้น 2ppt จากงวดเดียวของปีก่อน, เพิ่มขึ้น 5ppt จากไตรมาสก่อน) คาดมาจากงานที่ปรึกษาซึ่งปกติมีมาร์จิ้นสูงสร้างสัดส่วนต่อรายได้รวมมากขึ้น

ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 1/2567 คิดเป็น 24% ของประมาณการกำไรปกติปี 2567 ที่ 104 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน มีโอกาสเกิด upside หากรักษา base earnings ได้ โดยในช่วงที่เหลือยังมีโครงการใหญ่อยู่ระหว่างก่อสร้างราว 800 ช่องจอด COD ช่วงไตรมาส 2- ไตรมาส 3/67 (โรงพยาบาลศิริราชบางกอกน้อย 230 ช่องจอด และ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า 532 ช่องจอด) เป็นอีกปัจจัยหนุน อย่างไรก็ตามรอติดตามสถานการณ์อีกระยะโดยมีตัวแปรคือธุรกิจที่ปรึกษาและรับติดตั้งระบบซึ่งรายได้มีความผันผวนสูง

ดังนั้นประเมินราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 7.50 บาท อิง PER ปี 2567 ที่ 29 เท่า Key หรือเทียบเท่า PEG 1 เท่า (อิงอัตราการเติบโต 2566-2568) ทั้งนี้ catalyst คือการขยายตัวของชุมชนเมืองและการเพิ่มขึ้นของปริมาณรถยนต์หนุนความต้องการใช้พื้นที่จอดรถเพิ่มขึ้น