NEX รูด 27% เซ่นเพิ่มทุน 5 เท่าตัว 8.8 พันล้านหุ้น ขายพีพี 2.55 บ. พ่วงผถห.เดิม 1 บาท
NEX รูดหนัก 27% หลังประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 8,837.31 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 10,859.14 ล้านบาท โดยออกหุ้นเพิ่มทุน 8,837.31 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท โดยกำหนดเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด “PP” จำนวน 75 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 2.55 บาท รอรับการใช้แปลงสิทธิวอร์แรนต์จำนวน 375 ล้านหุ้น และรองรับการเสนอขายหุ้นออกใหม่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นโดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ PPO
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 มิ.ย.67) ราคาหุ้น บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ณ เวลา 15:58 น. อยู่ที่ระดับ 2.02 บาท ลบ 0.74 บาท หรือ 26.81% ราคาต่ำสุด 1.99 บาท ราคาสูงสุด 2.68 บาท ด้วยมูลค่าซื้อ 730.53 ล้านบาท
สำหรับราคาหุ้น NEX ปรับตัวลงต่อเนื่อง ด้วยสาเหตุหลักจาก นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NEX เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 67 ว่าด้วยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2567 ได้มีมติในวาระสำคัญ ให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 พิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 8,837.31 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 2,021.83 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 10,859.14 ล้านบาท โดยมีการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 8,837.31 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท
โดยบริษัทฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้กับ (1) เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน (2) เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่จัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Warrant for Private Placement) และ (3) เพื่อรองรับการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น
ทั้งนี้การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 75 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 3.76 ของทุนชำระแล้วของบริษัทฯ ภายหลังการเพิ่มทุนชำระแล้ว จัดสรรให้แก่ผู้สนใจลงทุน ซึ่งสามารถส่งเสริมเกื้อกูลต่อธุรกิจทั้งในปัจจุบันและโครงการในอนาคตของบริษัทฯ ได้โดยจะเข้ามาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (business partner) และมีบทบาทในการส่งเสริมการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้บรรลุตามแผนงานได้ โดยบริษัทฯ อาจจัดสรรในคราวเดียว หรือหลายคราวได้ กำหนดราคาหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ 2.55 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นมูลค่ารวมไม่เกินกว่า 191.25 ล้านบาท
พร้อมกันนั้น จะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนเพื่อรองรับการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่จัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวนไม่เกิน 75 ล้านหน่วย และมีอัตราการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงการใช้สิทธิ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 5 หุ้นสามัญ โดยใบสำคัญแสดงสิทธิจะมีอายุ 3 ปี ระยะเวลาการใช้สิทธิทุกๆ 6 เดือน ราคาใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิหน่วยละ 12.75 บาทต่อหน่วย
ส่วนจำนวนหุ้นเพิ่มทุนจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวนไม่เกิน 375 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่จะจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวนไม่เกิน 75 ล้านหน่วย
นอกจากนี้ได้พิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท การจัดสรรหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) ตามสัดส่วนการถือหุ้นโดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทฯมีหน้าตามกฎหมายต่างประเทศ (PPO) โดยบริษัทฯจะออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งเดียวเต็มจำนวนหรือบางส่วนก็ได้โดยเสนอขายเป็นคราวเดียวหรือเป็นคราวๆ ไปก็ได้
ด้านการเสนอขายให้ในส่วนของผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ประมาณ 8,387.31 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1 บาท โดยการจัดสรรหุ้นจะดำเนินการ 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 กำหนดอัตราส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ครั้งที่ 2 กำหนดอัตราส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 1.5 หุ้นใหม่
โดย ณ วันที่มีการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ลงทุนที่สนใจ โดยเมื่อบริษัทได้รับความชัดเจนจากการเจรจากับผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงแล้ว บริษัทฯ จะจัดประชุมคณะกรรมการบริษัทอีกครั้งหนึ่งเพื่อพิจารณาอนุมัติการกำหนดรายชื่อผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงและการจัดสรรจำนวนหุ้นที่เสนอขายต่อไป
ขณะเดียวกันคาดการณ์ว่าจะสามารถดำเนินการดังกล่าวได้ภายในวันที่ 1 ก.ค.67 บริษัทฯ จะแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับรายชื่อผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงที่ได้รับการเสนอขายหุ้นที่ชัดเจนให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทราบผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป