บอลยูโร 2024 คึกคัก หอการค้าฯคาดเงินสะพัด 8.7 หมื่นล้าน
หอการค้าฯ ประเมินช่วงการแข่งขันบอลยูโร คาดเงินสะพัดแตะ 8.7 หมื่นล้าน ชี้ช่วยหมุนเงินในระบบเศรษฐกิจให้ดีขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 มิ.ย. 67) ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจพฤติกรรมการใช่จ่ายในช่วงฟุตบอลยูโร 2024 จากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,249 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 4-7 มิถุนายน 2567 พบว่ามูลค่าทางด้านเศรษฐกิจจะมีเงินสะพัดในช่วงดังกล่าว 87,620.03 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14%
โดยเป็นการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจประมาณ 20,575.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากฟุตบอลโลก 5% ซึ่งถือเป็นการขยายตัวที่ดี เพิ่มขึ้นในส่วนของสินค้าอุปโภคบริโภคและการจัดสังสรรค์รวม 5% หรือประมาณ 16,295 ล้านบาท เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์รับสัญญาณเพิ่มขึ้น 2% หรือประมาณ 2,347.22 ล้านบาท และอื่น ๆ อีก 10% หรือประมาณ 1,932.59 ล้านบาท ส่วนการใช้นอกระบบเศรษฐกิจอยู่ที่ 60,744.32 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17.10%
ดร.ธนวรรธน์ กล่าวว่า ฟุตบอลยูโรซึ่งเป็นการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (sport tourism) เพราะฉะนั้นประเทศที่เป็นเจ้าภาพจะได้ประโยชน์จากการหารายได้กับนักท่องเที่ยวที่เข้าไปดูฟุตบอล ซึ่งเป็นเกณฑ์สำคัญ รวมถึงในอดีตที่ผ่านมา การแข่งขันฟุตบอลจะทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเช่น การถ่ายทอดสด ขณะเดียวกันก็มีเรื่องประชาชนไปดูฟุตบอลที่ร้านอาหารก็จะมีกิจกรรมคึกคักหรือถ้าดูที่บ้านหรือบ้านเพื่อนก็มีแนวโน้มที่จะซื้อเครื่องดื่มและขนม
นอกจากนี้ ดร.ธนวรรธน์ กล่าวว่า แต่สิ่งที่เรารู้สึกว่ามีการเติบโตที่เด่นคือ การใช้จ่ายเงินนอกระบบจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เราเคยมีการสำรวจมาตั้งแต่ปี 2551 หรือก็คือในรอบ 16 ปีที่เราสำรวจ มีการใช้จ่ายนอกระบบเศรษฐกิจอยู่ที่ 60,744.32 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในช่วงขยายตัวและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เพราะโตขึ้นถึง 17.10% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการพนันฟุตบอลยูโร โดยรวมทั้งการพนันที่ไม่หวังเงินและหวังเงิน รวมถึงแบ่งเป็นการพนันกับเพื่อนและการพนันกับเว็บไซต์ ทำให้เห็นการเติบโตของธุรกิจพนันสูงขึ้นและเชื่อว่าสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์” ดร.ธนวรรธน์กล่าว
นอกจากนี้ พบว่าพฤติกรรมการเล่นพนันฟุตบอล พบว่า 35.6% ของกลุ่มตัวอย่างมีการเล่นพนันฟุตบอล ขณะที่คนรอบข้างเล่นพนันฟุตบอลอยู่ที่ 43.6% โดยคาดว่าจะเล่นเฉลี่ยตลอดทั้งการแข่งขันใช้จ่ายประมาณ 23,574.3 บาท ส่วนใหญ่จะใช้จ่ายมากที่สุดประมาณ 10,000-50,000 บาท
ส่วนใหญ่ยังนิยมเล่นเป็นเงินสดอยู่ที่ 58.5% และที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนคือ มีการพนันเป็นสิ่งของเยอะขึ้นเมื่อเทียบกับฟุตบอลยูโรในครั้งก่อน จากเดิมในครั้งก่อนที่ 1.9% แต่ในครั้งนี้การพนันเป็นสิ่งของเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 20% โดยแหล่งที่มาของเงินที่ใช้จ่ายค่าพนันฟุตบอลยูโรมาจากรายได้ปกติหรือเงินเดือน เงินออม และบางส่วนจากผู้ปกครอง อีกทั้งยังคาดว่า การเล่นพนันในปีนี้จะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับฟุตบอลยูโรครั้งก่อน 51% และสูงขึ้นเมื่อเทียบกับลีกต่าง ๆ 46.4%
ส่วนผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม ส่วนใหญ่มองเป็นทิศทางบวกเพราะช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้นในช่วงฟุตบอลยูโร กระตุ้นเยาวชนให้หันมาสนใจกีฬาฟุตบอล มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น กระตุ้นให้วงการฟุตบอลไทยมีโอกาสเล่นในระดับโลก และช่วยลดความเครียดจากการเรียนหรือการทำงาน
ขณะที่ด้านลบอาจะทำให้ค่าใช้จ่ายในช่วงฟุตบอลยูโรเพิ่มขึ้น การพูดคุยเกี่ยวกับฟุตบอลมากเกินไปในเวลาทำงาน ก่อให้เกิดหนี้เสีย อุบัติเหตุจากการดื่มแอลกอฮอล์หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ