จับตาวันนี้ ศาลรธน.นัดพิจารณาคดียุบ”พรรคก้าวไกล” ปมล้มล้างการปกครอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (12 มิ.ย. 67) ต้องจับตาการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากที่รับพิจารณา เรื่องที่ 10/2567 กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค เนื่องจากมีพฤติการณ์ “ล้มล้าง-ปฏิปักษ์การปกครอง” ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) โดยในวันนี้จะเป็นการนัดพิจารณาคดีเป็นครั้งแรก เวลา 09:30 น. ในการประชุมประจำสัปดาห์ขององค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญคาดว่าจะ 2 แนวทางคือ  1. หากมีการเห็นว่าพยานหลักฐาน เพียงพอก็อาจจะมีการนัดวันเพื่อฟังคำวินิจฉัย 2. หากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ อาจจะมีการให้แต่ละฝ่ายเพิ่มข้อมูลในเรื่องของพยานและเอกสาร ก็จะนัดวันสืบพยาน

ก่อนหน้านี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าวกรณีการสู้คดียุบพรรคก้าวไกล ที่อาคารอนาคตใหม่ โดย ย้ำว่า แนวทางการต่อสู้มีทั้งหมด 9 ข้อต่อสู้ 3 หมวดหมู่ กระบวนการ ข้อเท็จจริง และสัดส่วนโทษ เน้นไปที่ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายของคดีเป็นหลัก เพื่อไม่ให้เป็นการแสดงความคิดเห็นชี้นำสังคม ตามข้อกังวลของศาลธรรมนูญ

สำหรับแนวทางการต่อสู้ 9 ข้อ ประกอบด้วย  1.ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีเขตอำนาจพิจารณาวินิจฉัยคดี  2.กระบวนการยื่นคำร้อง กกต.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย  3.คำวินิจฉัยของคดีเมื่อ 31 ม.ค.67 ไม่ผูกพันต่อคดีนี้  4.การกระทำที่ถูกกล่าวหาไม่เป็นการล้มล้าง ไม่อาจเป็นปฏิปักษ์ 5.การกระทำตามคำวินิจฉัย เมื่อ 31 ม.ค.67 ไม่ได้เป็นมติของพรรค

6.โทษยุบพรรคต้องเป็นมาตรการสุดท้ายเมื่อจำเป็นฉุกเฉิน ฉันพลัน และไม่มีทางอื่นแก้ไขในระบอบประชาธิปไตย  7.ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค 8.จำนวนปีในการตัดสิทธิ์ทางการเมืองต้องได้สัดส่วนกับความผิด 9.การพิจารณาโทษต้องสอดคล้องกับกรรมการบริหารพรรคในช่วงที่ถูกกล่าวหา

นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล คาดว่า การประชุมขององค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ จะมีการหยิบยกคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของพรรคก้าวไกลมาพิจารณา โดยเฉพาะคำขอให้เปิดไต่สวนพยานเพิ่มเติม หลังจากนี้ ต้องรอดูว่าศาลจะพิจารณาอย่างไรต่อไป จะเรียกไต่สวนพยานเพิ่มเติมตามคำขอหรือไม่ หวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเปิดโอกาสให้พรรคก้าวไกลได้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ ส่วนพยานที่เตรียมไว้มีเป็นจำนวนมาก เพราะการต่อสู้มีหลายประเด็น

“คำชี้แจงของพรรคก้าวไกลที่ได้แถลงไปแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นปกติของการต่อสู้คดี ที่ต้องไล่เรียงประเด็นจากเรื่องใหญ่ ยืนยันว่าไม่ได้ซัดเต็มข้อตามที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ เป็นการชี้แจงตามประเด็น และข้อกฎหมาย ประเด็นไหนเห็นว่าสามารถต่อสู้ได้ ก็เสนอต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ” นายชัยธวัช กล่าว

 

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุว่า คดีสำคัญทางการเมือง 3 คดีที่สะเทือนตลาดหุ้นไทย ประกอบไปด้วย คดีนายทักษิณ ชินวัตร ผิดมาตรา 112, คดีถอดถอนนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน และคดียุบพรรคก้าวไกล
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้นส่งออก, สินค้าโภคภัณฑ์ หรือ (Global play) ส่วนแนะนำ ได้แก่ บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC, บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM, บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE, บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) sinv HANA, บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI

ส่วนสายลงทุน มองเป็นจังหวะสะสมกลุ่มที่โดนกระทบจากความไม่แน่นอนทางการเมือง หรือ Contrarian trade เช่น กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่, ค้าปลีก, อสังหาริมทรัพย์, ท่องเที่ยวในประเทศ อย่างไรก็ดีในกลุ่มอุตสาหกรรมข้างต้น แนะนำหุ้นขนาดใหญ่และเป็นผู้นำในแต่ละกลุ่ม ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL,บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC, บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC, บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH, บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT