ICHI-SAPPE วิ่งคึก! ลุ้นโกยยอดขาย Q2 เด่นรับ “ฤดูร้อน” ดันกำไรโตทะลัก

ราคาหุ้น ICHI-SAPPE บวกคึก! การันตีผลงาน Q2 เด่น ยอดขายและกำไรเติบโตรับฤดูร้อน-ผลิตภัณฑ์ใหม่ขายดี “อิชิตัน” ย้ำเป้าทั้งปีรายได้ 9,000 ล้านบาท ฟาก “เซ็ปเป้” ตอกย้ำยอดขายและกำไรพีกสุด ขณะที่ Bloomberg Consensus ประเมินเป้า ICHI ที่ 21 บาท ส่วน SAPPE เป้าหมาย 108 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 มิ.ย.67) ณ เวลา 10:56 น. ราคาหุ้น บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI อยู่ที่ระดับ 17.50 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 1.74% สูงสุดที่ระดับ 17.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 17.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 92.38 ล้านบาท

ด้านบริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE อยู่ที่ระดับ 99.50 บาท บวก 2 บาท หรือ 2.05% สูงสุดที่ระดับ 100.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 97.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 12.71 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้น ICHI และ SAPPE ปรับตัวเพิ่มขึ้นวันนี้ รับข่าวแนวโน้มผลประกอบการงวดไตรมาส 2/67 เติบโตอย่างโดดเด่นรับฤดูร้อน

โดยแหล่งข่าวจาก ICHI เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/67 รายได้จากการขายจะยังอยู่ในระดับสูงหรือเติบโตได้ดีเมื่อเทียบไตรมาสก่อน ที่มีรายได้รวมประมาณ 2,153 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงฤดูร้อน ทำให้ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มทั้ง Green tea และ Non-Tea ขายดี บวกกับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สร้างยอดขายเข้ามาเสริมเต็มไตรมาส เช่น เครื่องดื่มชูกำลัง TAN POWER และอื่น ๆ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ไตรมาส 2/67 ต้นทุนโดยรวมค่อนข้างนิ่ง และตั้งแต่เดือนมี.ค.67 เป็นต้นมา มีการเดินเครื่องจักรผลิตได้เต็มกำลัง หรือเป็นไปตามเป้าหมาย 100 ล้านขวดต่อเดือน ทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economics of Scale) หรือมีต้นทุนต่อหน่วยลดลง จากก่อนหน้าที่เป็นช่วงทดสอบและเดินเครื่องจักรผลิตได้ไม่เต็มที่

สำหรับแนวโน้มช่วงครึ่งหลังปี 67 บริษัทยังคงมีการทำการตลาดที่เข้มข้นต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นยอดขาย ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภคภายในประเทศและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่จะมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างมาก ควบคู่กับการบริหารจัดการต้นทุนโดยรวมที่ยังบริหารจัดการได้ดี และช่วยลดต้นทุนโดยรวมค่อนข้างมาก นำไปสู่การรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้ในระดับที่เหมาะสม

นอกจากนี้ บริษัทยังคอยติดตามปัจจัยบวก-ลบต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด และมุ่งเน้นสร้างการเติบโตให้ได้ต่อเนื่อง พร้อมทั้งคงเป้าหมายทั้งปี 67 จะมีรายได้รวม 9,000 ล้านบาท เมื่อเทียบปีก่อนที่มีรายได้รวมประมาณ 8,000 ล้านบาท และแตะ 10,000 ล้านบาท ภายในปี 68 เป็นไปตามการขยายธุรกิจได้ตามแผนงานที่วางไว้

ด้าน นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAPPE เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2-3/67 จะทำจุดสูงสุดของปี เนื่องจากเป็นฤดูขาย ทำให้ตลาดต่างประเทศทุกทวีปขยายตัว และการขยายช่องทางการขายที่ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงตลาดในประเทศขยายตัวดีและมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อกระตุ้นยอดขายและการตัดอัดแคมเปญการตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมมองครึ่งหลังปี 67 กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะยิ่งคึกคักมากขึ้น ช่วยสนับสนุนยอดขายทั้งในและต่างประเทศได้ดีอย่างแน่นอน

ส่วนเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจปี 69 บริษัทมุ่งเน้นผลักดันรายได้จากการขายให้เติบโตขึ้นแตะระดับ 10,000 ล้านบาท จากปี 66 ที่มีรายได้จากการขายรวม 6,050 ล้านบาท ถือว่ามาได้เกินครึ่งทางของเป้าหมายแล้ว ส่วนปี 67 ตั้งเป้าหมายจะมีรายได้จากการขายเติบเติบโต 20-25% จากปี 66 และพยายามควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายปี 67 ให้เป็นไปตามนโยบายการบริหารที่วางไว้

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุว่า แนวโน้มผลการดำเนินงาน ICHI ไตรมาส 2/67 จะเติบโตได้ดีต่อเนื่อง ตามอุตสาหกรรมชาพร้อมดื่มช่วงฤดูร้อน หลังรายงานรายได้ไตรมาส 1/67 ที่ 2,150 ล้านบาท และกำไร 364 ล้านบาท สูงกว่าที่ Bloomberg Consensus คาด 10%

ทั้งนี้ ยังได้วางขายเครื่องดื่มชูกำลังและผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ตลาด คือเครื่องดื่มชูกำลัง “ตัน พาวเวอร์” ที่วางจำหน่ายในร้านค้าปลีก ก่อนเข้าสู่แม็คโคร โลตัส โก เฟรช และบิ๊กซี ช่วงไตรมาส 3/67 และมีเป้าหมายยอดขาย 300 ล้านบาท สำหรับทั้งปี 67 อีกทั้งได้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ICHITAN ChewChew ชาเขียวกลิ่นองุ่นเคียวโฮ ผสมวุ้นมะพร้าว ในเดือนเม.ย.67 และมีเป้ายอดขาย 100 ล้านบาท ในปี 67

โดยผู้บริหารยังคงเป้าหมายรายได้ปี 67 ที่ 9,000 ล้านบาท หรือเติบโต 12% จากปีก่อน ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นมากกว่า 23% และอัตรากำไรสุทธิมากกว่า 13.5% โดย Bloomberg consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 67 จะอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท สอดคล้องกับเป้ารายได้และอัตรากำไรขั้นต้น (GM) ปัจจุบัน ICHI เทรด P/E ปี 67 ที่ 19.4 เท่า (อดีตเทรด P/E ที่ 18 เท่า) Bloomberg Consensus กำหนดราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 21 บาท

สำหรับแนวโน้มผลตามดำเนินงานไตรมาส 2/67 ของ SAPPE ผู้บริหารคาดการณ์รายได้เติบโตอยู่ช่วง 20-25% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และ 4-9% เมื่อเทียบไตรมาสก่อน สอดคล้องกับเป้ารายได้เติบโตเต็มปี 67 และมี GM ใกล้เคียงไตรมาส 1/67 ทำให้คาดการณ์กำไรไตรมาส 2/67 ยังเติบโต เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อนและเมื่อเทียบไตรมาสก่อน หลังรายงานรายได้ไตรมาส 1/67 ที่ระดับ 1,900 ล้านบาท และกำไร 352 ล้านบาท เป็นตัวเลขผลการดำเนินงานรายไตรมาสสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยอัตรากำไรขั้นต้น 46%

ขณะที่ SAPPE ได้ขยายกำลังการผลิต 20% ปี 66 และกำลังขยายกำลังผลิตอีก 25% ไตรมาส 2/67 (โรงงานเดิม) คาดว่าจะเริ่มต้น utilization rate ที่ 50% ช่วงไตรมาส 2/67 และขึ้นไปถึง 70% ในไตรมาส 3/67 และคงแผนจะสร้างโรงงานใหม่ เพื่อรองรับอีก 3 ไลน์การผลิตปี 68-70 ด้วยงบลงทุนรวม 3,100 ล้านบาท โดยเฟสแรกจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/68 ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 25-30% และเฟสสอง จะแล้วเสร็จไตรมาส 3/69 ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 25-30%

นอกจากนี้ Bloomberg consensus คาดการณ์กำไรสุทธิปี 67 เฉลี่ยจะอยู่ที่ 1,320 ล้านบาท เติบโต 23% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งมีการปรับเพิ่มขึ้นมาประมาณ 3% จากข้อมูล ณ สิ้นเดือนมี.ค. 67 เพื่อสะท้อนผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 ที่ออกมาแข็งแกร่ง โดยปัจจุบัน SAPPE เทรด P/E ปี 67 ที่ 23.5 เท่า กำหนดราคาเป้าหมายเฉลี่ย 108 บาท ปรับเพิ่มจาก 99 บาท ณ สิ้นเดือนมี.ค.67

Back to top button