วิตกสต็อกสหรัฐฯพุ่งพุ่งกดน้ำมันดิบปิดร่วงเกือบ 2 ดอลล์

สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 1.91 ดอลลาร์ หรือ 6.7% ปิด (20 ม.ค.) ที่ 26.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 88 เซนต์ หรือ 3.1% ปิดที่ 27.88 ดอลลาร์/บาร์เรล

ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงได้รับผลกระทบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย API รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ม.ค. พุ่งขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรล ขณะเดียวกันนักลงทุนยังกังวลว่า ภาวะน้ำมันล้นตลาดจะย่ำแย่ลงไปอีก จากการที่อิหร่านเตรียมส่งออกน้ำมันในตลาด หลังนานาชาติยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร

นายอามีร์ ฮอสเซน ซามานิเนีย รมช.พลังงานฝ่ายกิจการพาณิชย์และต่างประเทศของอิหร่าน เปิดเผยว่า อิหร่านตั้งเป้าเพิ่มการส่งออกน้ำมันทันที 500,000 บาร์เรลต่อวัน หลังจากที่นานาประเทศได้ยุติมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และสหรัฐในปีนี้ จากการประเมินก่อนหน้านี้ในเดือนต.ค.2015 โดยระบุถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่ เช่น จีน

ทั้งนี้ ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) นั้น IMF ระบุว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.4% ในปีนี้ ลดลง 0.2% จากที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ หลังจากที่มีการเติบโต 3.1% ในปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน IMF คาดว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.6% ในปี 2017 ลดลง 0.2% จากคาดการณ์ครั้งก่อน

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์อย่างเป็นทางการของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 23.00 น.ตามเวลาไทย ผลสำรวจของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดย Platts ระบุว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะ เพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ม.ค.