CCET บวกแรง 9% นิวไฮรอบ 16 ปี เก็งงบ Q2 แจ่ม-ได้ประโยชน์ “บอนด์ยีลด์” ขาลง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(8ก.ค.67) ราคาหุ้นบริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CCET ณ เวลา 15:28 น.อยู่ที่ระดับ 4.42 บาท บวก 0.38 บาท หรือ 9.41% ราคาสูงสุด 4.48 บาท ราคาต่ำสุด 4.00 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 625.72 ล้านบาท ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงในรอบ 16 ปี 4 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 4.46 บาท เมื่อวันที่  13 ก.พ.51

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(8 ก.ค.67)ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US Bond Yield) ปรับลงแรงและหลุดแนวรับหลักตัวเลขแรงงานออหมาชะลอ อิงอายุ 2 ปี – 11 bps อยู่ที่ 4.6% (หลุดแนวรับโซน 4.66% ลงมา บ่งชี้เป็นขาลง) เช่นเดียวกับ อายุ 10 ปี -9 bps อยู่ที่ 4.28% ระดับต่ำสุดในเดือน ก.ค.67 มองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มชิ้นส่วน อาทิ DELTA, KCE, HANA กลุ่มการเงิน MTC กลุ่มโรงไฟฟ้า อาทิ GULF, CKP กลุ่มหนี้สูง CPAXT MINT ส่วน Dollar Index ระยะสั้นแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง ล่าสุดบริเวณ 104.5 +/- จุด (อ่อนค่าต่ำสุดในรอบราว 1 เดือน)

โดยก่อนหน้านี้นายคงสิทธิ์ โจวกิจเจริญ กรรมการผู้จัดการ CCET เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯในครึ่งปีหลังมีทิศทางที่สดใส เนื่องจากโรงงานใหม่ในมหาชัยและเพชรบุรี ตั้งอยู่ในเขตปลอดภาษี (Free Trade Zone) จะแล้วเสร็จในช่วงครึ่งปีหลังของปี 67 และสามารถรองรับคำสั่งซื้อสินค้ามาร์จิ้นสูงจากกลุ่มลูกค้าทั่วโลกได้

ขณะเดียวกัน ดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงมากหลังจากบริษัทฯ นำเงินจากการเพิ่มทุนไปชำระหนี้สามารถลดภาระดอกเบี้ยไปได้จำนวนมาก ส่งผลให้มั่นใจว่าภาพรวมของผลการดำเนินงานในปี 67 จะเติบโตได้ก้าวกระโดด

สำหรับโรงงานแห่งใหม่ดังกล่าว จะผลิตสินค้าตามคำสั่งซื้อจากลูกค้า โดยเริ่มมุ่งเน้นไปที่สินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง เช่น ผลิตภัณฑ์การพิมพ์และภาพคุณภาพสูง (Laser Printer), อุปกรณ์สำหรับจัดเก็บข้อมูล (SSD), อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ (Wearable Device) และอื่นๆ

นอกจากนี้ บริษัทและสาขาต่างประเทศของบริษัทฯยังสามารถตอบสนองความต้องการใหม่ๆ เช่น AI Server อุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ เครื่องใช้ในบ้านอัจฉริยะและระบบเฝ้าระวัง (IoT) และอื่นๆ

“นอกเหนือจากการขยายโรงงานแล้ว บริษัทยังสามารถลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ค่าใช้จ่ายทางการตลาด และต้นทุนทางการเงิน ภายหลังจากการเพิ่มทุนเมื่อปลายปีที่แล้ว เพื่อชำระหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงินที่เคยใช้สำหรับขยายโรงงานในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะช่วยสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังมีทิศทางที่ดีขึ้น จนทำให้ในปี 67 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ” นายคงสิทธิ์ กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้า 881.36 ล้านเหรียญสหรัฐ (เทียบเท่ากับ 31,679.42 ล้านบาท) และมีกำไรสุทธิ 15.06 ล้านเหรียญสหรัฐ (เทียบเท่ากับ 541.48 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 82.15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 1.71% จาก 0.77% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการบริหารธุรกิจโดยรวมที่ดีขึ้น

โดย CCET รายงานผลประกอบการในไตรมาส 1/67 มีกำไรสุทธิ 556.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.15% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 273.78 ล้านบาท และ และอัตรากำไรสุทธิของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจาก 0.77% จากปี 66 เป็น 1.71% ในปี 67 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิในปี 67 สาเหตุหลักมาจากการบริหารธุรกิจโดยรวมที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า