TACC ลุยติดตั้งเครื่องกดเครื่องดื่มอัตโนมัติเพิ่ม ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 15%

TACC เปิดแผนปี 59 โตไม่ยั้ง! ลุยติดตั้งเครื่องกดเครื่องดื่มแบบอัตโนมัติ สำหรับเครื่องดื่มร้อน เพิ่มอีก 740 เครื่อง มั่นใจผลักดันเป้ารายได้ปีนี้เติบโตกว่า 15% พร้อมเดินหน้าขยายตลาดในกัมพูชา-จีน-ลาว หนุนสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศแตะ 12-15%


นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC ผู้จัดหา ผลิต และจำหน่ายเครื่องดื่มประเภทชาและกาแฟรายใหญ่ในร้านสะดวกซื้อ “7-Eleven” เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 59 บริษัทยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจ “เครื่องกดเครื่องดื่มแบบอัตโนมัติ” (Vending Machine) ซึ่งเป็นเครื่องดื่มร้อนประเภทชาและกาแฟในร้าน 7-Eleven

โดยมีเป้าหมายจะติดตั้งให้ได้ประมาณ 1,500 เครื่อง ภายในปี 2560 โดยในปีปลายปีที่ผ่านมา ติดตั้งเครื่องไปแล้ว 10 เครื่องเพื่อทดสอบตลาด และในปีนี้มีแผนติดตั้ง 740 เครื่อง และในปี 2560 ติดตั้งเพิ่มอีก 750 เครื่อง กระจายตามสาขาของ 7-Eleven ทั่วประเทศโดยใช้เงินลงทุนประมาณ 120 ล้านบาท 

สำหรับเป้าหมายรายได้ของบริษัทในปี 2559 ตั้งเป้าขยายตัวไม่ต่ำกว่า 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท  โดยได้รับปัจจัยหนุนสำคัญมาจากรายได้จากธุรกิจที่มีการร่วมพัฒนา (B2B) ร่วมกับ 7-Eleven ซึ่งถือเป็นคู่ค้าพันธมิตร โดยในปีนี้คาดว่ารายได้จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ หลังติดตั้งเครื่องกดเครื่องดื่มแบบอัตโนมัติเพิ่มอีก 740 เครื่องในปีนี้  ทั้งนี้ คาดว่าสัดส่วนรายได้จาก B2B ในปีนี้จะอยู่ที่ 80-85% ของรายได้รวม ส่วนที่เหลือ 15-20% เป็นรายได้ที่มาจากสินค้าที่จำหน่ายออกสู่ผู้บริโภคโดยตรง (B2C) ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ ว่าจะเป็น เครื่องดื่ม ชาเขียว “เซนย่า” กาแฟ “วี-สลิม” เครื่องดื่ม “ณ อรุณ” และ เครื่องดื่ม  “สวัสดี” 

“สำหรับปีนี้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยมีสัดส่วนเพิ่มประมาณ 12% ของรายได้รวม จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 8 % โดยบริษัทฯมีแผนบุกตลาดในประเทศกัมพูชา จีน และลาว ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ หลังเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งเรามองว่าเป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้า และกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ”นายชัชชวีกล่าวในที่สุด

ส่วนภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2558 ที่ผ่านมา รายได้จากยอดขายอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 2557 อย่างไรก็ตาม ในแง่ของกำไรขั้นต้นในปีที่ผ่านมาเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการขายสินค้ากลุ่มที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการผลิตสินค้าจากโรงงานผลิตเครื่องดื่มปรุงสำเร็จของบริษัทฯ ได้อย่างเต็มที่ จึงทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลง อีกทั้งยังมีการควบคุมงบประมาณค่าใช้จ่ายในการโฆษณาประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขายอย่างรัดกุม

Back to top button