DSI-ปปง. แถลงคืบหน้าคดี STARK จ่อสอบเส้นทางการเงินเพิ่ม 5 ราย

DSI - ปปง. เผยความคืบหน้าคดีหุ้น STARK ล่าสุดเตรียมสอบเส้นทางการเงินเพิ่มอีก 5 ราย หลังพบโยงเส้นทางเงิน 380 ล้านบาท นัดพิจารณาคดีสุดท้าย ธ.ค. 68


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 ก.ค. 67) นายสมบูรณ์  ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรม ฝ่ายการเมือง พันตำรวจตรี ยุทธนา  แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจตรี วรณัน  ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ และนายวิทยา  นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย ในฐานะโฆษกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินคดีและการติดตามทรัพย์สินในคดีทุจริตหุ้น ของ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK คดีพิเศษที่ 57/2566 กรณีดังกล่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีความเห็นทางคดีและส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ไปยังพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ

ทั้งนี้พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ  เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อหาผู้ร่วมกระทำความผิดในคดีทุจริต STARK เพิ่มเติมอีก 5 ราย หลังสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมแล้วพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาในคดีนี้ราว 380 ล้านบาท

โดยที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 66 พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องบุคคลที่เกี่ยวข้องรวม จำนวน 11 ราย ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายชนินทร์ เย็นสุดใจ , นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ , นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ , นายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม , นางสาวยสบวร อำมฤต , นางสาวนาตยา ปราบเพชร , บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) , บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด , บริษัท อดิสรสงขลา จำกัด บริษัท ไทยเคเบิ้ล อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด  , บริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง  เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด

โดยภายหลังจากที่มีการจับกุมนายชนินทร์ ผู้ต้องหาคนสำคัญ ทำให้ปัจจุบันพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลอาญาครบถ้วนแล้ว ซึ่งผู้ต้องหาทุกรายอยู่ในการควบคุมตัวในเรือนจำ   เพื่อรอการพิจารณาคดีในชั้นศาล โดยกำหนดวันนัดพิจารณาคดีนัดแรก ในวันที่ 14 ม.ค. 68 จนถึง นัดสุดท้ายในเดือนธ.ค. 68

โดยส่วนของความเสียหายในคดีอาญาคดีนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 14,778 ล้านบาท แบ่งเป็น หุ้นกู้ จำนวน 9,198 ล้านบาท และหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 5,580 ล้านบาท โดยที่ผ่านมากรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงาน ปปง. ได้มีการยึด/อายัดทรัพย์สินรวมจำนวนประมาณ 3,000 กว่าล้านบาท อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ก.ล.ต.   ได้มีการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาและศาลอาญาก็มีคำสั่งยึด/อายัดทรัพย์สินของบริษัท STARK และบริษัทที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 อีกส่วนหนึ่ง

ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ระหว่างการดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 กรณีที่มีการโอนหรือรับโอนทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดมูลฐานฉ้อโกงประชาชน โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบและพิจารณาดำเนินคดีกับบุคคลที่โอนและรับโอนโดยมิได้มีมูลหนี้ ตามกฎหมาย โดยเฉพาะการรับโอนเงินจากอดีตประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน คือนายศรัทธาฯ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อยึดอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติมร่วมกับสำนักงาน ปปง. เป็นคดีพิเศษที่ 32/2567 รวมทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษยังมีการพิจารณาดำเนินคดีกับกรรมการบางรายเพิ่มเติมตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. มีการกล่าวหา

สำหรับประเด็นที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมีคำสั่งแต่งตั้ง นายพิชัย  นิลทองคำ   เป็นประธานคณะทำงานศึกษาแผนประทุษกรรมกรณีบริษัท STARK นั้น เนื่องจากนายพิชัย แจ้งความประสงค์ขอถอนตัวจากการเป็นประธานคณะทำงานฯ ดังกล่าว  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมจึงได้มีคำสั่งกระทรวงยุติธรรมที่ 171/2567 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 ยกเลิกคำสั่งเดิม และมีคำสั่งแต่งตั้ง นายพงศ์เทพ  เทพกาญจนา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานคณะทำงานฯ แทน และมีการเพิ่มเลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์นายกสภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์ และนายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เข้ามาเป็นคณะทำงานฯ เพื่อทำหน้าที่ศึกษาแผนประทุษกรรมกรณีดังกล่าวต่อไป

Back to top button