EA รูดติดฟลอร์! หลังตลท.ปลด SP แพนิกหนี้หุ้นกู้ปีนี้กว่า 1.6 หมื่นล้าน

EA รูดติดฟลอร์เช้านี้ หลัง “ตลท.” ปลดเครื่องหมาย SP รอบซื้อขายเช้านี้ นักลงทุนแพนิกหนี้หุ้นกู้ปีนี้ที่ยังเหลืออีกกว่า 1.6 หมื่นล้าน ขณะที่ “ทริสเรทติ้ง” ปรับลดเครดิตจาก BBB+ (Negative) เป็น BB+ (Negative) เสี่ยงกระทบวงเงินกู้จากสถาบันการเงิน และหุ้นกู้ที่กำลังจะออกใหม่


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 ก.ค.67) ราคาหุ้น บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดตลาดที่ระดับ 9.20 บาท ลบ 3.90 บาท หรือ 29.77% สูงสุดที่ระดับ 9.20 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 9.15 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 64.85 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้น EA ปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดของวัน (ฟลอร์) ทันทีหลังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปลดเครื่องหมาย SP ในรอบการซื้อขายช่วงเช้าของวันนี้ เนื่องจากบริษัทมีการชี้แจงข้อมูลตามที่ตลท. สอบถามไปก่อนหน้านี้

โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาปรับตัวลดลงอย่างหนัก คาดการณ์ว่านักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับหนี้สินต่างๆ ซึ่งวานนี้ EA ชี้แจงเกี่ยวกับสถานะทางการเงินว่า ณ สิ้นเดือนมี.ค.67 บริษัทฯ มีหนี้สินเงินต้นที่จะครบกำหนดชำระภายในปี 67 จำนวน 19,505 ล้านบาท ประกอบด้วย

1.เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินและตั๋วแลกเงินระยะสั้น จำนวนเงิน ณ วันที่ 31 มี.ค. 67 มูลค่า 8,354 ล้านบาท โดยมีการจ่ายชำระระหว่างเดือน เม.ย.-มิ.ย. 67 มูลค่า 210 ล้านบาท ยอดคงเหลือโดยประมาณ 8,144 ล้านบาท อย่างไรก็ตามการชี้แจงเงินกู้ระยะสั้นเพิ่มเติมทั้งนี้ได้รวมตั๋วแลกเงินแล้ว

2.เงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงินที่ ถึงกำหนดชำระภายใน 1 ปี ณ วันที่ 31 มี.ค. 67 มูลค่า 5,659 ล้านบาท โดยมีการจ่ายชำระระหว่างเดือน เม.ย.-มิ.ย. 67 มูลค่า 2,807 ล้านบาท ยอดคงเหลือโดยประมาณ 2,852 ล้านบาท อย่างไรก็ตามตามที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯก่อนหน้า (ยอดรวมดอกเบี้ยแล้วอยู่ที่ 3,200 ล้านบาท)

3.หุ้นกู้ที่ถึงกำหนดชำระภายใน 1 ปี ณ วันที่ 31 มี.ค. 67 มูลค่า 5,492 ล้านบาท  ยอดคงเหลือโดยประมาณ5,492 ล้านบาท อย่างไรก็ตามที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อนหน้าจำนวน 5,500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามหนี้สินรวมจำนวนเงิน ณ 31 มี.ค. 67 มูลค่า 19,505 ล้านบาท โดยมีการจ่ายชำระระหว่างเดือน เม.ย.-มิ.ย. 67 มูลค่า 3,017 ล้านบาท ยอดคงเหลือโดยประมาณ 16,488 ล้านบาท

นอกจากนี้ TRIS Rating ยังมีการปรับลดระดับความน่าเชื่อถือ จาก BBB+ (Negative) เป็น BB+ (Negative) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อวงเงินกู้จากสถาบันการเงิน และหุ้นกู้ใหม่ที่จะออกตามแผนเดิม

Back to top button