KTC-AEONTS กอดคอวิ่ง! ลุ้นมติรัฐขอ ธปท.ลดจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตเหลือ 5%

KTC-AEONTS กอดคอวิ่ง! ลุ้นมติรัฐขอ ธปท.ลดจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตเหลือ 5% จากเดิม 8% ช่วยเหลือลูกหนี้ช่วงเศรษฐกิจไม่ดี


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(16 ก.ค.67) ราคาหุ้น บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC ณ เวลา 11:36 น. อยู่ที่ระดับ 39.75 บาท บวก 1.00 บาท หรือ 2.58% ราคาสูงสุด 40.25 บาท ราคาต่ำสุด 38.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 94.07 ล้านบาท

ด้าน บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS ณ เวลา 11:58 น. อยู่ที่ระดับ 119.50 บาท บวก 3.00 บาท หรือ 2.58% ราคาสูงสุด 119.50 บาท ราคาต่ำสุด 116.00 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 18.06 ล้านบาท

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(16 ก.ค.67) ว่า เตรียมนำเสนอ BOT ลดการจ่ายเงินขั้นต่ำบัตรเครดิตเหลือ 5% จาก 8% ช่วยเหลือลูกหนี้ช่วงเศรษฐกิจไม่ดี มองจิตวิทยาบวกต่อกลุ่มผู้ประกอบการบัตรเครดิต KTC, AEONTS ที่คุณภาพสินทรัพย์ระยะหลังอ่อนแอลง หลังเริ่มปรับเพิ่มอัตราจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำตั้งแต่ต้นปี 2567  และกลุ่มอิงกำลังซื้อภายใน CPALL,CPAXT

โดยวานนี้ (15 ก.ค.67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือประเด็นเศรษฐกิจ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน และหนี้ธุรกิจขนาดย่อมทั้งระบบ โดยเฉพาะหนี้ในกลุ่มที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (Special Mention : SM) ทั้งหนี้รถยนต์ หนี้บ้าน หนี้บัตรเครดิต และหนี้การใช้จ่ายเพื่อการบริโภค

“ปัญหาหนักอกที่สุดและใหญ่ที่สุดคือหนี้ของประชาชน ถ้าแก้ได้แล้วทำให้หนี้รัฐเพิ่มขึ้นอีกหน่อยรัฐบาลก็รับได้ จึงต้องเร่งแก้หนี้ของประชาชนลดลงให้ได้ นายกฯ ได้รับทราบว่า ณ ปัจจุบันหนี้ครัวเรือนมีอยู่สูงถึง 90% ต่อจีดีพี และมีหนี้เสียคิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท โดยขณะนี้มีสัญญาณว่าสัดส่วนหนี้ครัวเรือนมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นายพิชัย กล่าว

สำหรับแนวทางในการแก้ไขปัญหาภาระหนี้สินของประชาชนส่วนแรก คือ หนี้บ้าน ล่าสุดธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้หาทางแก้ปัญหาหนี้บ้านด้วยการขยายระยะเวลาการผ่อนชำระให้ยาวขึ้นจากเดิม 60-70 ปี ปรับเป็น 80-85 ปี ซึ่งนายกฯ เห็นว่าน่าจะขยายแนวทางนี้ไปยังธนาคารพาณิชย์ จึงสั่งการให้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอความร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ทำมาตรการในลักษณะนี้

ส่วนหนี้รถยนต์ เบื้องต้นจะเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาหนี้รถกระบะ และมอเตอร์ไซค์ เนื่องจากเป็นเครื่องมือในการประกอบอาชีพ ล่าสุดกระทรวงการคลังกำลังพิจารณาแนวทางการดูแล โดยจะหารือกับบริษัทรถยนต์ และตัวแทนขาย เพื่อหาทางช่วยเหลือลูกนี้ที่เป็นหนี้เสียและถูกยึดรถยนต์

ขณะที่หนี้บัตรเครดิตนั้น พบว่าปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้รัฐบาลกำลังหาทางดูแลหนี้กลุ่มดังกล่าวเช่น การจัดทำคลินิกแก้หนี้ เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย และปรับโครงสร้างหนี้ พร้อมกันนี้นายกฯ ยังขอให้กระทรวงการคลัง ธปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาปรับเงื่อนไขการชำระขั้นต่ำของบัตรเครดิต ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่อัตรา 8% ลดลงเหลือ 5% ได้หรือไม่

นายพิชัย กล่าวว่า ที่ประชุมยังมอบหมายให้กระทรวงการคลัง ไปเร่งพิจารณาการแก้ไขปัญหาหนี้สินของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยเฉพาะการคำนวณยอดหนี้ให้เป็นไปตามกฎหมายฉบับใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนผู้ที่จ่ายเงินเกินอยู่ที่ 1.7 แสนราย คิดเป็นเงิน 2,100 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลจะรีบคืนเงินกลับไปให้ อีกส่วนคือ 2 ล้านรายกำลังคำนวณยอดหนี้ คิดเป็นเงินกว่า 54,000 ล้านบาท

ส่วนปัญหาหนี้นอกระบบ ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการคลัง ได้ขึ้นทะเบียนหนี้นอกระบบ หลักการของรัฐบาลจะพยายามหาทางดึงหนี้เหล่านี้เข้ามาในระบบต่อไป

“กระทรวงการคลังจะกลับไปคิดวิธีต่าง ๆ เข้ามาแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบ ขอเวลาอีกสักพัก โดยอาจวิธีการแก้แบบนอกกรอบคาดว่าในเร็ว ๆ นี้จะเห็นชัดเจนขึ้น” รองนายกฯ ระบุ

Back to top button