FM เด้ง 7% มั่นใจรายได้ 3 ปี โตก้าวกระโดด รับส่งออกเนื้อไก่พุ่ง

FM ดีด 7% กางแผนกลยุทธ์ 3 ปีรายได้เติบโตก้าวกระโดด ตั้งเป้าขึ้นผู้นำการส่งออกไก่แปรรูปปรุงสุกของไทย พร้อมบุกตลาดต่างประเทศ เพิ่มสัดส่วนรายได้ส่งออกแตะ 65% ดันมาร์จิ้นพุ่ง-ลุยธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มฐานรายได้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 ก.ค.67) ราคาหุ้น บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ FM ณ เวลา 10:04 น. อยู่ที่ระดับ 4.46 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 7.21% สูงสุดที่ระดับ 4.48 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.34 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 148.68 ล้านบาท

สำหรับราคาหุ้นดีดกลับขึ้นมา ตอบรับข่าว นายณัฐพล ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FM เปิดเผยว่า เชื่อมั่นการเติบโตของบริษัท เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งในฐานะหุ้นนวัตกรรมอาหารที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยมุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปปรุงสุก (CAV Product ) ที่มีมาร์จิ้นดีและมีการเติบโตสูง

โดยตั้งเป้ารายได้ใน 3 ปีข้างหน้าเติบโตก้าวกระโดด ทั้งแบบ Organic และ Inorganic โดยวางแผนเพิ่มสัดส่วนรายได้ส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 65% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนราว 50% รวมทั้งตั้งเป้าเป็นหนึ่งในผู้นำการส่งออกไก่แปรรูปปรุงสุกชั้นนำของไทย

ทั้งนี้ ภายหลังการระดมทุน FM จะนำเงินไปใช้ในปรับปรุงสายการผลิตเดิมและขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 25-30% เพื่อรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้า และการขยายตลาดใหม่ ๆ เช่น กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ เป็นต้น รวมทั้งลงทุนในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์พลอยได้ของไก่ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน เพิ่มศักยภาพธุรกิจต่อไปในอนาคต

ขณะที่ทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2567 เป็นไปตามเป้าหมายที่ประเมินไว้ ซึ่งจะเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโตจากไตรมาส 1/2567 ที่มีรายได้เติบโต 23% และกำไรสุทธิเติบโต 70% จากปัจจัยของตลาดไก่ที่สดใสขึ้น ประกอบกับการเติบโตตามกลยุทธ์มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปปรุงสุกเพิ่มขึ้น และการเพิ่มสัดส่วนการส่งออกมากขึ้น โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่ออนุมัติงบดังกล่าววันที่ 15 สิงหาคมนี้ ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาสที่เหลือของปีนี้ คาดว่ายังคงเติบโตในทิศทางเดียวกันกับไตรมาส 1/2567

นายสุเมธ มาสิลีรังสี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน FM เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อว่าแนวโน้มของผลการดำเนินงานในปี 2567 จะเติบโตจากปีก่อน โดยสัดส่วนรายได้จะมาจากการส่งออกที่ประมาณ 55-57% จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 50-53% ขณะที่ไก่แปรรูปปรุงสุก (CAV Products) จะมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 40-45% จากปัจจุบันอยู่ที่ 35-40% ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงกว่าไก่สดมาก และคาดว่าจะสามารถผลักดันให้อัตรากำไรสุทธิในปีนี้เพิ่มขึ้นอยู่ในระดับ 2 หลักได้ จากไตรมาส 1/2567 ที่ 7.12%

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ 1,080 ล้านบาท จะนำเงินไปใช้ใน 4 ส่วน ประกอบด้วย 1.ปรับปรุงสายการผลิตเดิมและขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 25-30% เพื่อรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้า และการขยายตลาดใหม่ ๆ เช่น กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ เป็นต้น โดยจะนำระบบออโตเมชันมาใช้ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนลดลง 2.ใช้ลงทุนในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (อาหารหมา แมว) หรือธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์พลอยได้จากทุกชิ้นส่วนของไก่

ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้มีการเจรจากับพันธมิตรเพื่อจะเข้าไปลงทุนในบริษัทที่ดำเนินการอยู่แล้ว จำนวน 2-3 ราย คาดว่าน่าจะได้เห็นความชัดเจนภายในปี 2567 โดยบริษัทตั้งงบลงทุนในส่วนนี้ไว้ที่ประมาณ 200-250 ล้านบาท, 3.ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน เพิ่มศักยภาพธุรกิจต่อไปในอนาคต และ 4.ใช้ชำระคืนเงินกู้บางส่วน

นายสุเมธ กล่าวถึงกรณีที่ราคาขายส่งของตีนไก่เพิ่มขึ้น 10% นับตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว หลังบราซิลสั่งห้ามส่งออกไก่ไปจีนเนื่องจากเกิดโรคไข้หวัดนก (ปี 2566 จีนนำเข้าตีนไก่มูลค่าราว 2.3 พันล้านดอลลาร์ราว 40% มาจากบราซิล) นั้นว่า  FM ได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าวด้วย เพราะตีนไก่ของ FM ได้ส่งออกไปจีนทั้ง 100% แต่สัดส่วนของตีนไก่ยังมีน้อย เพราะ 1 ตัว มีแค่ 2 ตีน โดยจะเห็นตัวเลขตั้งแต่ไตรมาส 2/2567 ขณะที่ในช่วงที่ผ่านมาสินค้าในสต๊อกของ FM ลดลงอย่างมาก จากเดิมที่บริษัทมีการเก็บสต๊อกสินค้า 2 เดือน ปัจจุบันเหลือสต๊อกอยู่ 1 เดือน

“ปัจจุบัน FM มีตลาดรองรับครอบคลุมทุกชิ้นส่วนของไก่ โดย “อก” จะส่งไปในตลาดยุโรป ขณะที่ น่อง” จะส่งไปในตลาดเอเชีย และส่วน “ปีก” กับ “ตีน” จะส่งไปตลาดจีน โดยราคาตีนไก่ในปัจจุบันสูงกว่าราคาเนื้ออก 3-4 เท่า โดยโรงงานของ FM มีใบอนุญาตส่งออกในมากกว่า 10 ประเทศทั่วโลก” นายสุเมธ กล่าว

นางดาริน กาญจนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออพท์เอเชีย แคปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาการเงิน FM กล่าวว่า FM เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ซึ่ง FM จะสามารถนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนไปต่อยอดธุรกิจ สร้างความเข้มแข็ง พร้อมทั้งผลักดันการเติบโตให้เป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมาย เชื่อว่า FM จะเป็นหุ้นที่มีศักยภาพ ที่จะเป็นหุ้นไฮบริด ทั้ง Growth Stock และ Dividend Stock ได้อย่างแน่นอน จากการบริหาร Cash Cycle ที่ดี มีสัดส่วนหนี้สินในระดับต่ำ และแผนการเติบโตที่ชัดเจน

นายทวีชัย ตั้งธนทรัพย์ หัวหน้าสายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ในฐานะผู้จัดการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วมของ FM กล่าวว่า FM ถือเป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง แนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่น ธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตไปพร้อม ๆ กับอุตสาหกรรมอาหารที่เป็นสิ่งจำเป็นหรือเป็นปัจจัยสี่ และการให้ความสําคัญกับเทคโนโลยีในการผลิตอาหาร (Food Tech) ผ่านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) ร่วมกับลูกค้า ทําให้ FM มีศักยภาพสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ โดยสินค้าดังกล่าวมีอัตรากําไรขั้นต้นสูง (Gross profit  Margin) สูงในอัตรา 15-20% หรือประมาณ 3-4 เท่า เมื่อเทียบกับสินค้าในกลุ่มธุรกิจไก่ชําแหละ

นางสาวนลิน วิริยะเสถียร กรรมการผู้จัดการฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม กล่าวว่า เชื่อว่า FM จะเป็นหุ้นที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนในอนาคต จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมามีกำไรต่อเนื่องทุกปี และมีแนวโน้มการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งได้เข้าไปเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ทำให้มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง ฐานทุนที่แข็งแรง พร้อมสนับสนุนให้มีศักยภาพผลักดันการเติบโตได้มากขึ้น

โดย FM มีจุดเด่น คือ ศักยภาพการเติบโตสูงจากการมีฐานธุรกิจแข็งแกร่ง ทั้งด้านการบริหารห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้ทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในธุรกิจมากกว่า 40 ปี โดยมุ่งเน้นธุรกิจไก่ปรุงสุก (CAV) ซึ่งมีอัตรากำไรสูงและผันผวนต่ำ และมีฐานลูกค้าเป็นบริษัทชั้นนำ โดยคาดการณ์อัตราการเติบโตเฉลี่ยของกำไรต่อปี (CAGR) 3 ปีข้างหน้า 31% (2567-2569) จากการขยายกำลังการผลิต การขยายตลาด การเพิ่มยอดขายสินค้าไก่แปรรูปปรุงสุก (CAV Products) ซึ่งมีอัตรากำไรสูง และการออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องและให้ราคาเป้าหมายที่ 8.90 บาท โดยคาดว่าจะมีอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรมาจากการลงทุนในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง

Back to top button