AQUA บวกต่อ 3% รับแผนลุย “ธุรกิจอาหาร” เต็มสูบ จ่อโกยรายได้ปีหน้า 2 พันล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(26 ก.ค.67)ราคาหุ้นบริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA ณ เวลา 10:38 น.อยู่ที่ระดับ 0.39 บาท บวก 0.01 บาท หรือ 2.63% ราคาสูงสุด 0.41 บาท ราคาต่ำสุด 0.38 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 6.74 ล้านบาท

ด้านนายฉาย บุนนาค รักษาการประธานกรรมการบริหาร AQUA เปิดเผยว่า บริษัทได้ชำระเงินหุ้นกู้ (AQUA247A) ที่ได้ออกและเสนอขายให้กับนักลงทุนเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 โดยมีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5.75 ต่อปี และครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 โดยบริษัทได้ชำระคืนหุ้นกู้ดังกล่าวเต็มจำนวน100%ตามกำหนด มูลค่า 628.80 ล้านบาท เรียบร้อยแล้ว

อีกทั้งล่าสุดบอร์ดมีมติเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่มูลค่า 600 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นไฟลิ่งเพื่อขอเสนอขายหุ้นกู้ AQUA ครั้งที่ 1/2567 วงเงินไม่เกิน 600 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7-7.25 ต่อปี โดยจะครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 9 สิงหาคม 2570 และเป็นหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีหลักประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยจะเสนอขายแก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ คาดว่าจะสามารถเปิดจองได้ระหว่างวันที่ 6-8 สิงหาคม 2567 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างขอรับอนุมัติเสนอขายจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)อย่างเป็นทางการ

ล่าสุดบริษัทได้เข้าลงทุนในธุรกิจอาหาร โดยจับมือกับ 2 พันธมิตรธุรกิจ คือ บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด และนายปิยะเลิศ ใบหยก (หรือเบียร์ ใบหยก) จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อบริษัท เอฟเอบี ฟู้ดโฮดิ้ง จำกัด (FAB) เพื่อทำธุรกิจร้านอาหาร

โดยจะมี 8 แบรนด์ที่อยู่ภายใต้การบริหารของ FAB รวม 204 สาขา ได้แก่ Santa Fe, Santa Fe Easy, เหม็ง แซ็ปนัว จำนวน 142 สาขา, Sekai no Yamachan จำนวน 10 สาขา, ส้มตำ เจ๊แดง สามย่าน จำนวน 42 สาขา, ราเมงเดส, อิคโคฉะ ราเมน และอุชิดายะ ราเมน จำนวนรวม 10 สาขา ทั้งนี้ ในธุรกิจอาหารจะแบ่งเป็น 4 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย1. กลุ่มสเต๊ก,2. กลุ่มอาหารไทย,3. กลุ่มอาหารญี่ปุ่น และ4. กลุ่มราเมน

“มั่นใจว่าการลงทุนในครั้งนี้ จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้น AQUA จากผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะเติบโตได้ตามแผนธุรกิจที่วางไว้ อีกทั้งการตัดสินใจนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองให้กับบริษัท โดยปัจจุบันร้านอาหารในแต่ละแบรนด์มีผลกำไรอยู่แล้ว การรวมกันจะทำให้เกิดความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้นอีก จากการมีอำนาจในการซื้อวัตถุดิบที่ต้นทุนต่ำลง” นายฉาย กล่าว

นายชัยพิพัฒน์ แก้วไตรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ AQUA เปิดเผยว่า บริษัทร่วมทุน FAB มีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท แบ่งเป็น AQUA ถือ หุ้นสัดส่วน 51% คิดเป็นเงินลงทุน 1,275 ล้านบาท ขณะที่บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด ถือหุ้นในสัดส่วน 40% และนายปิยะเลิศ ใบหยก ถือหุ้นในสัดส่วน 9% โดยกระบวนการจัดโครงสร้างจะแล้วเสร็จภายในตุลาคม 2567 สำหรับแหล่งเงินทุนของ AQUA จะมาจาก 3 ส่วน ได้แก่1. กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน,2. เงินสดจากการการขายเงินลงทุนบางส่วน และ3. การกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอาหารจะเข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 4/2567 เป็นต้นไป โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจดังกล่าวที่ประมาณ 300-400 ล้านบาท และในปี 2568 รายได้จากธุรกิจอาหารจะเพิ่มเป็นประมาณ 1,600-1,700 ล้านบาท ซึ่งจะคิดเป็นสัดส่วนรายได้ที่ประมาณ 60-70% ของรายได้รวมใน AQUA และจะเป็นธุรกิจเรือธงที่สร้างรายได้ให้กับ AQUA ในอนาคต

สำหรับ AQUA ในปี 2567 คาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 1,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 924.18 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 1/2567 บริษัทมีรายได้รวมแล้ว 232.05 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 จะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่ออนุมัติงบการเงินในช่วงระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคมนี้

ขณะที่ในปี 2568 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวมเติบโตที่ระดับกว่า 2,000 ล้านบาท โดยจะมาจาก 1.กลุ่มธุรกิจอาหาร ซึ่งจะมีสัดส่วนรายได้ที่ประมาณ 60-70% ของรายได้รวม,2.กลุ่มธุรกิจคลังสินค้า จะมีสัดส่วนรายได้ที่ประมาณ 15% ของรายได้รวม และ 3.กลุ่มธุรกิจขนส่ง (โลจิสติกส์) จะมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 15% ของรายได้ ซึ่งทุกกลุ่มธุรกิจจะเกิดการ Synergy ร่วมกัน ทำให้ต้นทุนลดลง ความสามารถในการทำกำไรจะเพิ่มขึ้นด้วย

นอกจากนี้ AQUA เตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่ มูลค่า 600 ล้านบาท คาดอัตราดอกเบี้ย 7-7.25% ต่อปี โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)  คาดจะเสนอขายให้กับนักลงทุนเฉพาะกลุ่มได้ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้