4 หุ้นไฟฟ้าเด้ง! ลุ้นชิงเค้ก “พลังงานหมุนเวียน” รอบ 2 กำลังผลิต 3.6 พันเมกฯ

BGRIM-GULF-GUNKUL-SSP เด้ง! รับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค มีมติเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) รอบสอง กำลังการผลิตรวม 3,668 เมกะวัตต์ มองโอกาสชนะประมูลสูงรอบนี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 ส.ค.67) ณ เวลา 10:19 น. ราคาหุ้น บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM อยู่ที่ระดับ 22.30 บาท บวก 0.70 บาท หรือ 3.24% สูงสุดที่ระดับ 22.40 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 21.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 121.97 ล้านบาท

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF อยู่ที่ระดับ 48.25 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.05% สูงสุดที่ระดับ 48.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 47.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 256.89 ล้านบาท

บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL อยู่ที่ระดับ 2.16 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 3.85% สูงสุดที่ระดับ 2.16 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 12.81 ล้านบาท

บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP อยู่ที่ระดับ 6.30 บาท บวก 0.05 บาท หรือ 0.80% สูงสุดที่ระดับ 6.35 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 6.30 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.37 ล้านบาท

สำหรับราคาหุ้นดีดกลับขึ้นมา ตอบรับข่าว นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมกบง. ซึ่งมีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ที่ประชุมมีมติเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) รอบสอง กำลังการผลิตรวม 3,668 เมกะวัตต์ โดยมอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ออกหลักเกณฑ์และประกาศรับซื้อต่อไป

ทั้งนี้ กบง.ได้เห็นชอบข้อเสนอการปรับปรุงหลักการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติมสำหรับโครงการผลิตไฟฟ้ากลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง และขยะอุตสาหกรรม ในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) สำหรับปี 2565-2573 เพื่อสนับสนุนการลงทุนในพลังงานสะอาด โดยมีการทบทวนและปรับหลักการสำหรับผู้ยื่นคำเสนอที่ผ่านหลักเกณฑ์ในรอบแรกที่ไม่ได้รับการคัดเลือก จะได้รับการพิจารณารับซื้อเป็นลำดับแรกในปริมาณการรับซื้อไฟฟ้ารวมไม่เกิน 600 เมกะวัตต์ สำหรับพลังงานลม และไม่เกิน 1,580 เมกะวัตต์ สำหรับพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับโควตาส่วนที่เหลือจากการเปิดรับซื้อข้างต้น ให้เป็นการเปิดรับซื้อเป็นการทั่วไป

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบข้อเสนอหลักการการปรับเลื่อนกำหนดวันเริ่มต้นซื้อขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (SCOD) สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม ตามแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ภายใต้แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP2018 Rev.1) ในช่วงปี พ.ศ. 2564-2573 (ปรับปรุงเพิ่มเติม) ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งทุเลาของศาลปกครองกลาง จำนวน 22 โครงการ ทำให้โครงการต้องชะลอการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้กกพ.ไปพิจารณาปรับกรอบระยะเวลาการเข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า และปรับเลื่อนกำหนด SCOD สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมดังกล่าวให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงของแต่ละโครงการได้ตามสมควร ทั้งนี้ไม่ให้เกินกรอบภายในปี 2573

นอกจากนี้ กบง.ยังมีมติให้นำส่วนต่างต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติที่เกิดจากผลการดำเนินการตามมติกพช. เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2566 ในการปรับหลักเกณฑ์การคิดราคาก๊าซธรรมชาติที่เข้าและออกจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ มาช่วยลดภาระค่าครองชีพด้านพลังงานให้กับประชาชนผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) โดยการนำส่วนต่างราคาดังกล่าวมาช่วยพยุงราคาขายปลีก NGV ไม่ให้มีการปรับขึ้นอย่างทันทีจากราคาก๊าซธรรมชาติในช่วงปลายปีที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 16 ส.ค.-15 ต.ค. 2567 โดยมอบหมายให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รับไปดำเนินการ และให้รายงานผลการดำเนินการให้กบง.ทราบต่อไป

โดยหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์มากสุดจากการประมูลรอบสอง ได้แก่ GULF, BGRIM, GUNKUL, SSP มีโอกาสสูงที่จะชนะประมูลรอบนี้ เนื่องจากมีโครงการลมและโซลาร์ที่ผ่านหลักเกณฑ์ในรอบแรกค่อนข้างสูง

Back to top button