TRUE บวก 2% นิวไฮรอบเกือบ 5 ปี หลังโชว์งบ Q2 อิบิทด้าโต 16% โบรกชี้ปี 68 พลิกกำไร

TRUE วิ่ง 2% ทำนิวไฮในรอบเกือบ 5 ปี หลังรายงานงบไตรมาส 2/67 อิบิทด้าโต 16% ฟากโบรกชี้ปี 68 มีลุ้นพลิกมีกำไร ด้าน LSEG CONSENSUS ให้ราคาเป้าหมายหุ้น TRUE เฉลี่ยที่ 9.72 บาท จาก 13 โบรกเกอร์  


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 ส.ค.67) ราคาหุ้น บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ณ เวลา 10:52 น. อยู่ที่ระดับ 9.55 บาท บวก 0.15 บาท หรือ 1.60% สูงสุดที่ระดับ 9.55 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 9.15 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.10 พันล้านบาท

โดยราคาหุ้น TRUE ปรับตัวขึ้นทำนิวไฮอีกครั้งในรอบ 4 ปี 11 เดือน นับตั้งแต่ราคาปิดที่ระดับ 9.57 บาท เมื่อวันที่ 17 ก.ย.62

นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TRUE เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/67 ขาดทุนสุทธิ 1,879 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 2,319 ล้านบาท จากการบันทึกผลกระทบเชิงลบที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจากการด้อยค่าสินทรัพย์ที่มีความซ้ำซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย 4,277 ล้านบาท หากไม่รวมผลกระทบที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว กำไรสุทธิหลังหักภาษีภายหลังการปรับปรุง (Normalized) จะอยู่ที่ 2,398 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น 1,596 ล้านบาทจากไตรมาสก่อน

โดยมีปัจจัยหลักมาจากการปรับตัวที่ดีขึ้นของ EBITDA และค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (D&A) ที่ลดลง ค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน (CAPEX) ไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 6,112 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นการลงทุนเพื่อพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย และการยกระดับประสบการณ์ลูกค้า

อย่างไรก็ตาม บริษัทมุ่งเน้นการสร้างกำไรและคุณค่าอย่างยั่งยืนผ่านประสบการณ์ การเติบโตและการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวมภายในปี 2568 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการทำกำไร จึงมั่นใจว่าปีนี้จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงเพื่อการเติบโตที่มีกำไร ขณะที่ปี 2568 จะเป็นปีแห่งการทำกำไรอย่างยั่งยืนและการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า อุตสาหกรรม ตลาด และประเทศโดยรวม

นายชารัด เมห์โรทรา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TRUE เปิดเผยว่า TRUE กำลังเร่งการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย โดยได้ดำเนินการพัฒนาไปแล้วกว่า 7,100 สถานี จากทั้งหมด 17,000 สถานี ส่งผลให้คะแนนความพึงพอใจของลูกค้า (NPS) ดีขึ้น และได้จัดตั้งกลุ่มงานลูกค้าและ AI เพื่อยกระดับการให้บริการด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ซึ่งบริษัทกำลังใช้กลยุทธ์แบบ 360 องศาในระดับละเอียดเพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้า มีเป้าหมายจะเพิ่มความเร็วสูงสุดของ 5G เป็น 2 เท่าผ่านโครงข่ายที่เหนือกว่าและครอบคลุมกว้างที่สุด ทรู คอร์ปอเรชั่น มีเจตนารมณ์ในการลงทุนสำหรับการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัยรวมถึงการพัฒนาขีดความสามารถของระบบหลังบ้านแบบอัตโนมัติ (Back-end systems) เพื่อขับเคลื่อนการเป็นดิจิทัลทั่วทั้งองค์กร ทำให้ทรูก้าวล้ำในการเป็นบริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยี จากเสาสัญญาณทั้งหมด 59,000 สถานี โดยจะพัฒนา 17,000 สถานี ที่มีแผนพัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป 10,000 สถานี ภายในปี 67 และส่วนที่เหลือจะแล้วเสร็จในปี 68

สำหรับไตรมาส 2/67 การให้ความสำคัญเชิงคุณภาพในการได้มาซึ่งลูกค้าใหม่ ทำให้มีจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ลดลง 0.60 ล้านเลขหมาย หรือ 1.20% จากไตรมาสก่อน โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 50.50 ล้านเลขหมาย จำนวนผู้ใช้บริการระบบรายเดือนคงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ 15.3 ล้านราย ผู้ใช้บริการออนไลน์เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 0.10% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนอยู่ที่ 3.70 ล้านราย

ขณะเดียวกัน นายนกุล เซห์กัล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) TRUE กล่าวว่า ในไตรมาส 2/2567 รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย หรือ IC เติบโต 5.70% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยได้แรงหนุนจากการบริหารผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในทุกกลุ่มธุรกิจ รายได้รวมอยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.40% เมื่อเทียบกับปีก่อน

โดยมีปัจจัยหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการรายได้จากบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 5.2% จากปีก่อน เนื่องจาก ARPU เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 3.90% จากปีก่อน รายได้จากบริการออนไลน์เพิ่มขึ้น 5.50% จากปีก่อน โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของ ARPU อย่างต่อเนื่องที่ 9.60% เทียบกับช่วงปีก่อน รายได้จากบริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก (PayTV) เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงปีก่อน จากรายได้ที่สูงขึ้นจากธุรกิจดนตรีและบันเทิง แม้ว่ารายได้จากค่าสมาชิกยังคงเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่อง

รวมถึงบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (ไม่รวมค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย หรือ D&A) ลดลง 3.90% เมื่อเทียบกับปีก่อน หลังการปรับปรุงผลกระทบเชิงบวกที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในไตรมาส 2/66 โดยปัจจัยหลักมาจากประโยชน์ที่ได้รับจากการควบรวมกิจการ ต้นทุนเครือข่ายลดลง 7.60% จากปีก่อน ผลมาจากการประหยัดต้นทุนผ่านการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัยและการลดอัตราราคาพลังงาน นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 14.20% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยได้รับประโยชน์จากการควบรวมกิจการโครงการปรับปรุงด้านการค้าและการพัฒนาองค์กรให้ทันสมัย บริษัทได้ผสานแนวคิดการมุ่งเน้นผลการดำเนินงานเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรและมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพเชิงโครงสร้าง ส่งผลให้สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้มีการบันทึกการเพิ่มขึ้นของ EBITDA 4,883 ล้านบาท นับตั้งแต่การควบรวมกิจการ โดยไตรมาส 2/67 EBITDA อยู่ที่ 24,335 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น 733 ล้านบาท จากไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้น 3.10% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ซึ่งหากปรับปรุงด้วยผลกระทบเชิงบวกที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในไตรมาส 2/66 EBITDA จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.50% เมื่อเทียบกับปีก่อน อันเนื่องมาจากการเติบโตของรายได้และการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวม อัตราส่วน EBITDA ต่อรายได้จากการให้บริการปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่การควบรวมกิจการที่ 58.60% ในไตรมาส 2/67

นอกจากนี้ คณะผู้บริหาร TRUE ได้ปรับปรุงแนวโน้มปี 67 โดยคาดว่าปีนี้บริษัทจะมีรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) เติบโต 4-5% เมื่อเทียบกับปีก่อน EBITDA จะเติบโต 12-14% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่แนวโน้มค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน (CAPEX) รวมถึงการลงทุนเพื่อการควบรวมกิจการยังคงอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท โดยทั้งปี 67 จะยังคงมีกำไร หากไม่รวมผลกระทบจากการด้อยค่าสินทรัพย์ที่มีความซ้ำซ้อนที่เกี่ยวข้องการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย

รายงานข้อมูลจาก LSEG CONSENSUS ให้ราคาเป้าหมายหุ้น TRUE เฉลี่ยที่ 9.72 บาท จาก 13 โบรกเกอร์

Back to top button