TCAP วิ่ง 4% รับกำไร Q2 โตเกินคาด โบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 57 บาท

TCAP บวกเกือบ 4% หลังรายงานกำไรไตรมาส 2 ออกมาโตกว่าที่คาดการณ์ ฟากโบรกแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 57 บาท ลุ้นกำไรไตรมาส 3/67 ยังโตต่อเนื่องรับการฟื้นตัวของธุรกิจประกัน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 ส.ค.67) บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP ณ เวลา 15:42 น. อยู่ที่ระดับ 45.75 บาท บวก 1.75 บาท หรือ 3.98% สูงสุดที่ระดับ 46.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 44.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 114.67 ล้านบาท

นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ TCAP เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/67 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมจำนวน 2,057 ล้านบาท โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทฯ จำนวน 1,926 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อน รวม 6 เดือนแรกปี 67 กำไรสุทธิมีจำนวน 3,981 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิส่วนของบริษัทฯ จำนวน 3,688 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากงวดเดียวกันปีก่อน

โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนที่ TCAP ลงทุนในบริษัทร่วม ในขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับตัวลดลง เนื่องจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นตามภาวะตลาด ประกอบกับสินเชื่อเช่าซื้อปรับลดลงตามนโยบายการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น สำหรับผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นปรับเพิ่มขึ้นจากการตั้งสำรองอย่างระมัดระวังเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของธุรกิจสินเชื่อที่มีหลักประกันยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตามแผน

“เศรษฐกิจไทยยังคงเติบโตได้ช้ากว่าที่คาดในครึ่งปีแรก แต่มีความคาดหวังว่าในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 มีผลบังคับใช้ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา การส่งออกที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นบ้าง ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่มีความชัดเจนขึ้นบ้าง น่าจะเป็นแรงสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเร่งการเติบโตขึ้นได้ในช่วงระยะเวลาที่เหลือของปี แต่อย่างไรก็ตาม ฝ่ายจัดการยังคงเน้นเรื่องการเสริมสร้างความมั่นคงและดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง โดยธุรกิจให้สินเชื่อมีการดำเนินกลยุทธ์ที่เน้นเติบโตของสินเชื่อที่มีคุณภาพ ดูแลเรื่องความเสี่ยงอย่างรอบคอบ

ส่วนธุรกิจประกันภัยจะเติบโตเบี้ยประกันรถยนต์อย่างค่อยเป็นค่อยไป เน้นสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าในการใช้บริการ สำหรับธุรกิจหลักทรัพย์จะเน้นการกระจายรายได้ไปยังธุรกิจหลักทรัพย์ด้านอื่นมากขึ้น ลดการพึ่งพิงรายได้จากการซื้อขายหลักทรัพย์ ในด้านธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ยังคงดำเนินแผนการขยายสินเชื่ออย่างระมัดระวัง และเน้นเติบโตสินเชื่อใหม่ที่มีคุณภาพภายใต้สินเชื่อกลุ่มเป้าหมาย ควบคู่กับการดูแลคุณภาพสินทรัพย์อย่างเข้มงวดได้เป็นอย่างดี” นายสมเจตน์ กล่าว

ด้าน บล.ดาโอ จำกัด ระบุว่า ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” TCAP ให้ราคาเป้าหมายที่ 57 บาท หลัง ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 1.93 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อน และโต 9% จากไตรมาสก่อน ดีกว่าตลาดคาดการณ์ 10% จากเงินปันผลรับสูงถึง 194 ล้านบาท (ปกติรับรู้เฉลี่ยต่อไตรมาสราว 50 ล้านบาท) จากการเข้าซื้อหุ้น TISCO ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ประกอบกับมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก MBK ที่ mismatch กันระหว่างไตรมาสเพิ่มอีกราว 60 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก TTB ที่ 1.34 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน แต่ทรงตัวจากไตรมาสก่อน จาก Tax benefit รวมถึงมี Net Insurance Premium ที่ 660 ล้านบาท ลดลง 2% จากปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นได้ 15%จากไตรมาสก่อนเนื่องจากการเติบโตของช่องทางการขายผ่านโบรกเกอร์และดีลเลอร์เพิ่มขึ้น

ด้านกำไรสุทธิครึ่งแรกของปี 67 คิดเป็น 53% ของกำไรทั้งปี ทำให้ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 67 อยู่ที่ 7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน จากส่วนแบ่งกำไรจาก TTB เพิ่มขึ้น และกำไรจากบริษัทลูกๆ ยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ขณะที่คาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/67 จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เพราะ TTB ยังมีกำไรที่จะเติบโตได้ดีต่อเนื่องจาก Tax benefit ที่มีเหลืออีก 1.27 หมื่นล้านบาท ประกอบกับธุรกิจประกันเริ่มมีทิศทางฟื้นตัวได้ดีแต่จะลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าเพราะไม่มีเงินปันผลจาก TISCO เข้ามาช่วยหนุนเหมือนไตรมาส 2/67 ราคาหุ้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาลดลง-3% เมื่อเทียบกับ SET ตามสภาวะของตลาดหุ้น

ขณะที่คาดการณ์ว่า TCAP ยังคงจะจ่ายเงินปันผลปี 67 ที่ระดับสูงต่อเนื่องที่ 3.40 บาทต่อหุ้น คิดเป็น dividend yield ที่สูงราว 8%

Back to top button