MTC เด้ง 5% นำทีมกลุ่ม “ไฟแนนซ์” รับกำไร Q2 ทะลุ 1.4 พันลบ. โบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 52 บาท
MTC เด้ง 5% นำทีมกลุ่ม “ไฟแนนซ์” รับกำไรไตรมาส 2/67 ออกมาเติบโตแกร่ง หลัง MTC รายงานกำไรสุทธิแตะ 1,444 ล้านบาท เติบโต 20.33% ด้านโบรกแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 52 บาท หลังทำนิวไฮได้ตามคาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (7 ส.ค.67) ราคาหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ดีดตัวขึ้น ตอบรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/67 ออกมาเติบโตก้าวกระโดด โดยเฉพาะ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ราคาอยู่ที่ระดับ 42.50 บาท บวก 2.00 บาท หรือเพิ่มขึ้น 4.94% สูงสุดที่ระดับ 43.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 42.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 196.90 ล้านบาทบาท
บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ณ เวลา 10:20 น. อยู่ที่ระดับ 30.50 บาท บวก 1.25 บาท หรือเพิ่มขึ้น 4.27% สูงสุดที่ระดับ 31.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 30.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 158.33 ล้านบาท
บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ราคาอยู่ที่ระดับ 10.50 บาท บวก 0.30 บาท หรือเพิ่มขึ้น 2.94% สูงสุดที่ระดับ 10.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 10.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 26.59 ล้านบาทบาท
บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SAK ราคาอยู่ที่ระดับ 5.05 บาท บวก 0.13 บาท หรือเพิ่มขึ้น 2.64% สูงสุดที่ระดับ 5.10 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.05 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.18 ล้านบาท
บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ HENG ราคาอยู่ที่ระดับ 1.02 บาท บวก 0.02 บาท หรือเพิ่มขึ้น 2.00% สูงสุดที่ระดับ 1.02 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.02 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.08 ล้านบาท
บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR ราคาอยู่ที่ระดับ 15.00 บาท บวก 0.20 บาท หรือเพิ่มขึ้น 1.35% สูงสุดที่ระดับ 15.30 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 15.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 24.50 ล้านบาท
นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งมั่นที่จะเติมเต็มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในสังคมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินตามเป้าหมายสหประชาชาติ ผ่านสาขากว่า 7,980 แห่ง พร้อมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการภายใต้อัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ยืนหยัดเป็นผู้ให้สินเชื่อที่รับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ส่งผลให้ในไตรมาส 2/2567 พอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 154,672 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.43% รายได้รวมอยู่ที่ 6,832 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.10% และกำไรสุทธิ 1,444 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.33% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ 6 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้รวม 13,463 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.35% และกำไรสุทธิ 2,834 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.85% เทียบช่วง 6 เดือนแรกของปีก่อน โดยบริษัทฯ มั่นใจว่าเป้าพอร์ตสินเชื่อจะเติบโตกว่า 15-20% ตามเป้าหมายที่วางไว้ ในส่วนของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 2.88% ซึ่งสามารถบริหารจัดการให้อยู่ในระดับไม่เกิน 3.20% ภายใต้นโยบายช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพลูกหนี้ รวมถึงการปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ
ล่าสุด MTC เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 7/2567 ซึ่งเป็นหุ้นกู้ชุดใหม่ 3 ชุด ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering) ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี 4 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.30% ต่อปี, หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี 3 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.80% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 4 ปี 8 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.95% ต่อปี โดยหุ้นกู้ทั้ง 3 ชุดจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ เสนอขายระหว่างวันที่ 16 และ 19 – 20 ส.ค.67 ตามอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ และหุ้นกู้อยู่ในระดับ Investment Grade ที่ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิตคงที่ โดยทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 12 ก.ค.67 ซึ่งวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้รับไปขยายพอร์ตสินเชื่อของบริษัทฯ ที่ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังคงให้ความสำคัญต่อการส่งมอบบริการที่มีคุณภาพและสิทธิในการเข้าถึงมาตรฐานบริการระดับสากลอย่างเท่าเทียม พัฒนากระบวนการปล่อยสินเชื่อตลอดห่วงโซ่ของกิจการ พร้อมทั้งรักษาผลประโยชน์และตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าให้เกิดความประทับใจสูงสุด คำนึงผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน จนได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการอยู่ในระดับดีเลิศ (5 ดาว) รวมถึงผลประเมินหุ้นยั่งยืน (ESG Rating) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในระดับ A และผลประเมิน MSCI Index ในระดับ AA สะท้อนการเป็นผู้นำธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ในมาตรฐานระดับโลก (World-class Thai Microfinance)
นอกจากนี้บริษัท ได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินระดับโลก อาทิเช่น องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) รัฐบาลเยอรมนี (KFW DEG) และยินดีที่จะระดมความร่วมมือกับแหล่งเงินทุนชั้นนำทั้งในและต่างประเทศอีกหลายแห่งในอนาคต เพื่อสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิต รักษาเสถียรภาพทางสิ่งแวดล้อม พร้อมเป็นที่พึ่งทางการเงินและเติบโตเคียงคู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (7 ส.ค.67) ว่า MTC มีกำไรไตรมาส 2/67 แตะ 1.4 พันล้านบาท ทำ New high ได้ตามคาด โดยเพิ่มขึ้น 20.30% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ 3.90% จากไตรมาสก่อนหน้า จากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามกำไรเพิ่มขึ้นของสินเชื่อ และการตั้งสำรองที่ลดลง ถึงแม้ว่าค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นตามสินเชื่อเร่งตัว ทำให้ NPL ลดลงค่อนข้างมาก
สำหรับสินเชื่อในไตรมาสนี้ของ MTC เร่งตัวขึ้น โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 4.8% จากไตรมาสก่อนหน้า และทำให้สินเชื่อเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 66 ที่ 7.8% เมื่อเทียบกับต้นปีจนถึงปัจจุบัน
ส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อเงินให้กู้ยืมที่เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อยังหดตัวต่ออีก 3% จากไตรมาสก่อนหน้า ทางด้าน NPL ถึงแม้ว่าปริมาณ NPL จะลดลงได้เล็กน้อย แต่สินเชื่อที่เร่งตัวขึ้นทำใหสัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมลดลงเหลือ 2.88% จากไตรมาสก่อนอยู่ที่ 3.03%
ทั้งนี้ ทางฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปี 67 ของ MTC ไว้ที่ 6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเป็นการกลับมาทำ New high ได้อีกครั้ง และยังคงราคาพื้นฐาน 52 บาท ยังมีส่วนต่างเหลือพอสมควรแนะนำ “ซื้อ”