4 หุ้นบริการเด้ง! รับครม. เคาะงบ 433 ล้านบาท หวังกระตุ้นท่องเที่ยว

4 หุ้นบริการเด้ง! AOT-AAV-TRUE-CPAXT ขานรับครม.เคาะงบกระตุ้นท่องเที่ยวระยะเร่งด่วน มั่นใจสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (7 ส.ค.67) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ราคาอยู่ที่ระดับ 56.75 บาท บวก 1.00 บาท หรือเพิ่มขึ้น 1.79% สูงสุดที่ระดับ 56.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 55.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 396.41 ล้านบาท

บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ราคาอยู่ที่ระดับ 2.20 บาท บวก 0.06 บาท หรือเพิ่มขึ้น 2.80% สูงสุดที่ระดับ 2.22 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.16 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 19.31 ล้านบาท

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ราคาอยู่ที่ระดับ 9.75 บาท บวก 0.10 บาท หรือเพิ่มขึ้น 1.04% สูงสุดที่ระดับ 9.80 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 9.65 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 271.83 ล้านบาท

บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ราคาอยู่ที่ระดับ 29.25 บาท บวก 0.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 1.74% สูงสุดที่ระดับ 29.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 29.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 19.23 ล้านบาท

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ (6 ส.ค.67) ว่า ครม.รับทราบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวระยะเร่งด่วน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยใช้งบกลาง 433.199 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการท่องเที่ยวในแพลตฟอร์มออนไลน์และโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดด้วยการจัดกิจกรรมมหกรรมเสน่ห์ไทย เพื่อกระตุ้นเศรฐกิจทั้งระบบ

เนื่องจากปัจจุบันรัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยอาศัยกลไกการท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่น จึงขอให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว ก่อนถึงช่วงไฮซีซั่นในเดือนพฤศจิกายนนี้

สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนต้องสั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผู้ว่าฯ ททท.เร่งดำเนินการโครงการต่างๆ ก่อนถึงช่วงไฮซีซั่น

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึง 2 โครงการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวระยะเร่งด่วน (Quick Win) เตรียมพร้อมจัดโปรโมชันส่งเสริมการขายร่วมกับ 9 แพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดัง และจัดงานมหกรรมเสน่ห์ไทยนำเสนออัตลักษณ์ถิ่น 5 จังหวัดใน 5 ภูมิภาค เร่งสานต่อนโยบายรัฐบาล IGNITE THAILAND’s TOURISM คาดสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจโดยรวมไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท

ด้านภาพรวมการท่องเที่ยวในปีนี้ พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-4 ส.ค. 67 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาแล้ว 21,045,344 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 990,835 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 4,229,268 คน มาเลเซีย 2,925,755 คน อินเดีย 1,218,453 คน เกาหลีใต้ 1,117,576 คน และรัสเซีย 1,015,762 คน ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเดินทางเข้ามาแตะระดับ 1 ล้านคน มีปัจจัยส่งเสริมการเดินทางจากการเข้าสู่ช่วง Summer holiday ของภูมิภาคยุโรป

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (29 ก.ค.-4 ส.ค.67) ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 710,237 คน ลดลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนหน้า 6,394 คน หรือ 0.89% คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 101,463 คน โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน 164,159 คน มาเลเซีย 87,833 คน เกาหลีใต้ 43,784 คน อินเดีย 32,165 คน และลาว 26,788 คน

ส่วนสัปดาห์นี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น จากปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่ การมีวันหยุดปิดภาคเรียน (School holiday) ในเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น การเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว Summer holiday ของตลาดภูมิภาคยุโรป การมีมาตรการ Ease of traveling ของรัฐบาล ช่วยเพิ่มการอำนวยความสะดวกในการเดินทางสู่ไทย การยกเว้นบัตร ตม.6 ในด่านทางบก และการกระตุ้นให้สายการบินเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุ ยอดผู้ใช้บริการสนามบิน AOT วันที่ 1-3 ส.ค.67 สูง 96.2% ของ Pre-COVD เร่งขึ้นจาก ก.ค.67 ที่ 93.4% และ นักท่องเที่ยวครึ่งปีแรก ที่ 88.4% มองนักท่องเที่ยว ส.ค.67 มีโอกาสเร่งสู่ 3.3 ล้านคน จากประเมิน ก.ค.67 อยู่ที่ 3.1 ล้านคน และครึ่งปีแรก ที่ 17.5 ล้านคน

โดยรวมประเมินนักท่องเที่ยว 8 เดือนแรก อยู่ระหว่าง 23.5-24  ล้านคน ขณะที่ 5 เดือนที่เหลือของปีมองรักษาระดับวันละ 1 แสนคนได้ จากมาตรการกระตุ้นต่าง ๆ ของรัฐฯ ประเมินนักท่องเที่ยวทั้งปี 67 ที่ตลาดคาดประมาณ 35.5-36 ล้านคนจะมี Upside น่าทยอยสะสม 5 หุ้นอิงภาคบริการ (ค้าปลีก สื่อสาร ท่องเที่ยว) อาทิ AOT, ADVANC, TRUE, CPAXT

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า AOT จะเป็นหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวมากที่สุด เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่ต้องเดินทางผ่านท่าอากาศยานของ AOT รองลงมาคือ AAV เพราะให้บริการเส้นทางบินในประเทศมากสุดในบรรดาสายการบินสัญชาติไทย โดยครองส่วนแบ่งตลาด (Market share) เส้นทางบินในประเทศที่ 40%

ทั้งนี้จึงยังคงเป้าผลประกอบการ AOT ปี 2567 ว่าจะมีกำไร 18,829 ล้านบาท มีผู้โดยสารที่ 120 ล้านคน เพราะแม้จะคาดการณ์ว่า มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว Quick win จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาอีก 3.5 แสนคน แต่ในจำนวนนี้ก็มิได้หมายความว่าจะเดินทางโดยเครื่องบินทั้งหมด แต่ยังมีช่องทางอื่นผสม เช่น นักท่องเที่ยวมาเลเซีย ที่จะเดินทางทางบกในการข้ามพรมแดน เป็นต้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น AOT ราคาพื้นฐาน 72 บาท

ด้าน AAV นั้น ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เช่นกัน โดยมีราคาพื้นฐานที่ 2.82 บาท จากการที่ AAV จะได้รับประโยชน์เพราะครองส่วนแบ่งตลาดเส้นทางในประเทศสูงสุด เนื่องจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว Quick win มีการจัดกิจกรรมในประเทศหลายพื้นที่ ซึ่งหากนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังไทยแล้วต่อเครื่องบินเดินทางในประเทศที่ AAV มีสัดส่วนเส้นทางมากสุด ก็จะช่วยหนุนรายได้ของ AAV ทั้งค่าโดยสารและบริการเสริมต่างๆ ให้เพิ่มขึ้น

Back to top button