ORI พุ่ง 9.38% แรงในรอบ 2 เดือน คาดเก็งกำไรหลังหุ้นอ่อนตัวมานาน

ORI พุ่ง 9.38% แรงในรอบ 2 เดือน คาดเก็งกำไรหลังหุ้นอ่อนตัวมานาน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ณ เวลา 15.39 น. อยู่ที่ระดับ 14.00 บาท บวก 1.20 บาท หรือ 9.38% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 71.52 ล้านบาท ราคาหุ้นปรับตัวแรงในรอบ 2 เดือน โดยนับตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 14.00 บาท เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 58

 

ก่อนหน้านี้ นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI  ระบุเมื่อวันที่ 18 ม.ค.ว่า ในปี 59 บริษัทตั้งเป้ายอดขาย (Presale) ไว้ที่ 7,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 5,300 ล้านบาท จากมีแผนเปิดโครงการใหม่ในปีนี้จำนวน 8-10 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยจะเน้นทำเลที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี และชลบุรี ตามเขตนิคมอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ในช่วง ไตรมาส 1/59 บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 4,000 ล้านบาท  อยู่ใน 3 ทำเล ได้แก่ โครงการ Notting Hill แหลมฉบัง,  โครงการ Notting Hill แพรกษา และโครงการ Notting Hill สะพานใหม่ ซึ่งโครงการใหม่ดังกล่าวเป็นการพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ Blue Ocean

ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 2,500 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับซื้อที่ดินในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ในอนาคต ซึ่งบริษัทมีความสนใจที่ดินในทำเลหมอชิต สะพานใหม่ แนวรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ และรถไฟฟ้าสายหลักที่เชื่อมต่อถนนพหลโยธิน โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดในมือ และการกู้เงินจากสถาบันการเงิน ปัจจุบันบริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ 1 เท่า ยังเพียงพอต่อการลงทุน

อย่างไรก็ตามหลังจากบริษัทนำเสนอข้อมูลต่อนัก ลงทุนในงานไทยแลนด์ โฟกัส ในครั้งที่ผ่านมา มีนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น สิงค์โปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง และ ไทย สนใจลงทุนในหุ้น ORI หลังเห็นแนวโน้มการเติบโตของบริษัทฯ แต่ยังติดปัญหาเรื่องสภาพคล่องของหุ้น โดยกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ระหว่างพิจารณาการขายหุ้นที่ถืออยู่ราว 70% ซึ่งเป็นหุ้นที่ติดไซเรนต์ พีเรียด 55% ให้กับนักลงทุนสถาบัน แต่ก็ยังไม่มีแผนที่จะขายในตอนนี้

สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ เชื่อว่าจะมีการเติบโตได้ ประมาณ 10-15% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศตามการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนต่างๆ ของภาครัฐ และจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีแรก

 

Back to top button