กมธ.ฟอกเงิน ข้องใจคดี STARK ไม่คืบ แนะ กรมบังคับคดี-DSI-ปปง. อย่าใส่เกียร์ว่าง
กมธ.ปปง. สรุปผลศึกษาคดีฉ้อโกงหุ้นสตาร์ค มูลค่าเสียหาย 7.5 หมื่นล้าน แนะ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รีบปิดคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 ส.ค.67 ) นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร แถลงสรุปผลการทำงานของ คณะอนุกรรมาธิการติดตามและศึกษาคดีฉ้อโกง บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ว่า ทางอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ได้ศึกษาและทำจัดรายงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว และส่งให้ที่ประชุมสภาฯ พิจารณา เนื่องจากเป็นคดีฉ้อโกงประชาชนที่มีความเสียหายประมาณ 14,778 ล้านบาท ผู้เสียหายผู้เสียหายที่เป็นผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 4,692 ราย และผู้ลงทุนสถาบัน 12 ราย แต่อัยการสั่งฟ้องบุคคลและนิติบุคคล รวมเพียง 11 ราย แต่มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง นายชินวัฒน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บริหาร บริษัท สตาร์ค โดยกันไว้เป็นพยานทุกกรณี
ทำให้ อนุกมธ.ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงไม่สั่งฟ้อง ทั้งที่มีการเข้าไปเทคโอเวอร์ บริษัท เอ็มพิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด (มหาชน) ของนักร้องชื่อย่อ ข. ที่ปรากฏมีการเปลี่ยนมือให้นักร้องคนนี้ไปซื้อหุ้นแทนมูลค่า 650 ล้านบาท โดยไม่มีการตรวจสอบที่มาหรือพยานแต่อย่างใด ทั้งนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แจ้งว่าจะตรวจสอบเงินดังกล่าว แต่ไม่ได้แจ้งกลับมาให้ทราบว่าได้ดำเนินการไปแล้วหรือไม่
นายเลิศศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้ง ดีเอสไอ และปปง. ไม่ได้ดำเนินคดีหรือแจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องกับการทำความผิด ในข้อหาพยายาม หรือ สมคบ หรือ สนับสนุนการฟอกเงิน แม้ข้อเท็จจริงเป็นที่เข้าใจได้ว่าในการกระทำความผิดลักษณะดังกล่าวต้องมีการเตรียมการกระทำความผิดมาเป็นอย่างดี แต่ไม่ได้สอบสวนในพฤติกรรมของการทำความผิด หรือมีการดำเนินการกับทรัพย์สิน เช่น ยึด หรือ อายัดทรัพย์สิน
” อยากได้รายละเอียดจาก กรมบังคับคดี , ดีเอสไอ หรือ ปปง. ว่า จะดำเนินการตรวจสอบให้คดีดังกล่าวคืบหน้า ในวันและเวลาไหน หากยังไม่ดำเนินคดีให้ออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรม ทาง กมธ. จะเข้าไปติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อีก ” นายเลิศศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย