“นักเศรษฐศาสตร์ต่างชาติ” เตือน ลงทุนไทยเสี่ยง เหตุการเมืองไม่นิ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญลงมติ 5 ต่อ 4 ให้นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสินพ้นจากตำแหน่ง ทางด้านนาย วีแดนท์ พาเทล รองโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงต่อเรื่องดังกล่าวว่า นายคริสตัล แทน นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคาร “ออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป”  ( Australia & New Zealand Banking Group) ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักว่า คำตัดสินดังกล่าวไม่ได้การตอบรับที่ดีจากตลาดทุน เนื่องจาก ความไม่แน่นอนทางการเมืองส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย การไร้นายกรัฐมนตรีในช่วงระยะเวลาไตรมาส 2/2567 ของไทย ส่งผลให้นักลงทุนชาวต่างชาติไม่มั่นใจว่า นโยบายเศรษฐกิจที่ออกแบบโดยพรรคเพื่อไทยจะถูกผลักดันต่อหรือไม่

นอกจากนี้ ยังมีปฏิกิริยาสื่อต่างประเทศหลายสำนักพร้อมใจกันรายงานข่าวการถอดถอนนายเศรษฐา ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยสำนักข่าว CNN รายงานว่า นายเศรษฐา ถูกปลดออกจากตำแหน่ง คำตัดสินดังกล่าวสร้างความตกตะลึงให้กับหลายคนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ และจะทำให้การเมืองในประเทศไทยเกิดความไม่แน่นอนมากขึ้น รวมถึง GDP ของไทย ที่อาจถดถอยลง

ด้านสำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า การเมืองในประเทศไทยจะกลับเข้าสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง หลังศาลมีคำพิพากษาให้ถอดถอน นายเศรษฐา ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยช่วงหนึ่งของการอ่านคำพิพากษาระบุว่า นายเศรษฐาได้กระทำการละเมิดมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้ถูกตัดสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากแต่งตั้งทนายความที่เคยถูกจำคุกให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา

ขณะที่สำนักข่าว Reuters ระบุว่า นายเศรษฐา เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ พ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรี หลังดำรงตำแหน่ง ได้ไม่ถึงปี และ หลังจากนี้รัฐสภาจะประชุมสภาเพื่อเลือกผู้นำคนใหม่