MASTER บวกต่อ 4% ส่งซิก Q3 เข้าไฮซีซั่น ดันครึ่งปีหลังเด่น-โบรกแนะซื้อเป้า 65 บ.
MASTER บวกต่อ 4% ส่งซิกไตรมาส 3/67 เข้าสู่ไฮซีซั่น หนุนผลงานครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก อานิสงส์ขยายห้องผ่าตัดใหม่-ลูกค้าเข้ามาทำหัตถการต่อเนื่อง โบรกฯชี้เป้าราคา 65 บาท คาดการณ์กำไรในปี 67-71 จะเติบโตเฉลี่ย 18% ต่อปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(19 ส.ค.67) ราคาหุ้นบริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ณ เวลา 11:37 น. อยู่ที่ระดับ 44.50 บาท บวก 1.75 บาท หรือ 4.09% ราคาสูงสุด 44.75 บาท ราคาต่ำสุด 42.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 49.22 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจของ MASTER ในช่วงครึ่งปีหลังยังมีมุมมองเชิงบวกและน่าจะเติบโตต่อเนื่อง เนื่องจากธุรกิจจะเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น โดยเฉพาะไตรมาส 3/2567 จะมีอัตราการเติบโตมากขึ้น และปกติจะเติบโตสูงสุดของปี ประกอบกับได้รับอานิสงส์จากอุตสาหกรรมความงามโดยรวมในประเทศเติบโต 8-10%
นอกจากนี้ประเมินว่าทิศทางการเติบโตจะต่อเนื่องไปยังแนวโน้มไตรมาส 4/2567 โดยสอดคล้องกับการขยายห้องผ่าตัดใหม่ และลูกค้าที่เข้ามาทำหัตถการอย่างต่อเนื่อง ผ่านการทำการตลาดของบริษัท ขณะที่ความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น จากการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
“เราคาดครึ่งหลังของปี 2567 จะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังโดยปกติคนจะเริ่มจับจ่ายใช้สอย และการใช้จ่ายจะสูงกว่าครึ่งปีแรก สอดคล้องกับการที่บริษัทได้ขยายฐานการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งคาดจะช่วยให้ยอดใช้จ่ายการทำศัลยกรรมโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณ 8%” นางสาวลภัสรดา กล่าว
ทั้งนี้ ยังคาดว่าการลงโฆษณาจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ ซึ่งแผนการลงโฆษณาเป็นไปตามปกติที่จะเน้นลงโฆษณาในไตรมาส 2 เช่นในปี 2566 เนื่องจากผู้ใช้บริการจะใช้เวลาในการตัดสินใจทำศัลยกรรมหลังเห็นโฆษณาประมาณ 3-6 เดือน และคาดว่าจะเห็นผลชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนทิศทางของลูกค้าต่างชาติมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยสัดส่วนลูกค้าในประเทศ 75.4% และสัดส่วนลูกค้าต่างชาติ 24.6%
สำหรับเป้าหมายในปี 2567 MASTER วางเป้าหมายรายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อน โดยเน้นเติบโตทั้งด้าน Organic และ Inorganic พร้อมกันนี้ MASTER ยังมองการเติบโตด้วยกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) ภายใต้กลยุทธ์ Cross Boder–Cross Selling และ Cross Synergy ซึ่งจะเป็นแรงสนับสนุนการสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน เป็นรายได้ที่เข้ามาเพิ่มเติมนอกเหนือจากรายได้หลักของ MASTER
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า แนวโน้มการเติบโตในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าของ MASTER จะมาจากทั้ง Organic และ Inorganic growth ภายใต้กลยุทธ์ Merger and Partners เพื่อวางตำแหน่งเป็น Specialty hospital ฝ่ายวิจัยจึงได้คาดการณ์กำไรในปี 2567-2571 จะเติบโตเฉลี่ย 18% ต่อปี และประเมินราคาเหมาะสมอยู่ที่ 65 บาทต่อหุ้น พร้อมให้น้ำหนักการลงทุน Outperform โดยมองว่า MASTER เป็นผู้นำในวงการศัลยกรรมความงามด้วยมาตรฐานระดับสากล มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขากว่า 142 คน ผ่านเครือพันธมิตรทั้งหมด 91 สาขา ครอบคลุม 60% ของพื้นที่ในประเทศไทยพร้อมด้วยประสบการณ์การผ่าตัดด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้บริการทุกช่วงวัย ขับเคลื่อนธุรกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดความงามที่มีศักยภาพสูง