น้ำมันดิบปิดพุ่งรับความหวังผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกร่วมมือลดอุปทาน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) หลังจากมีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกอาจจะทำข้อตกลงร่วมมือกันปรับลดกำลังการผลิต เพื่อสกัดการร่วงลงของราคาน้ำมันและเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำมันล้นตลาด
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 1.11 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิด (26 ม.ค.) ที่ 31.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ปิดที่ 31.8 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นมายืนเหนือระดับ 31 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากนายอับดุลลาห์ อัล-บาดรี เลขาธิการโอเปกได้ออกมาเรียกร้องให้ประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก ร่วมมือกันลดกำลังการผลิตเพื่อแก้ไขปัญหาภาวะน้ำมันล้นตลาด
“จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่จะต้องปรึกษาหารือกันเพื่อแก้ไขปัญหานี้” นายอัล-บาดรีกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวที่กรุงลอนดอนเมื่อวานนี้ ด้านรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของอิรักกล่าวว่า เขามองเห็นความยืดหยุ่นในการบรรลุข้อตกลงระหว่างโอเปก และประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่ม ขณะที่บริษัทลุคออยล์ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียควรจะร่วมมือกับกลุ่มโอเปกในการลดกำลังการผลิตน้ำมัน
ขณะที่นักลงทุนจับตาดูสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ในวันนี้เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย ส่วนในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ม.ค. เพิ่มขึ้น 4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 486.5 ล้านบาร์เรล ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล