3 หุ้นแบงก์วิ่งต่อ! รับฟันด์โฟลว์ไหลเข้า หลังราคาต่ำบุ๊ก
KBANK-BBL-KTB วิ่ง! รับเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้า หลังราคาปรับตัวลงลึกจากปัญหาหนี้ NPL สูงจนทำให้ราคาหุ้นปัจจุบันเทรดต่ำ Book Value ประกอบกับได้รับอานิสงส์กองทุนวายุภักษ์ 1 เข้าระดมทุน 1.5 แสนล้านบาท - กองทุน ThaiESG หนุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 ก.ย. 67) ณ เวลา 11:00 น. ราคาหุ้น ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK อยู่ที่ระดับ 155.50 บาท บวก 3.00 บาท หรือ 1.97% สูงสุดที่ระดับ 159.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 154.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3,046.75 ล้านบาท
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL อยู่ที่ระดับ 151.50 บาท บวก 1.00 บาท หรือ 0.66% สูงสุดที่ระดับ 154.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 150.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2,325.70 ล้านบาท
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB อยู่ที่ระดับ 20.30 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 0.50% สูงสุดที่ระดับ 20.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 20.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,708.01 ล้านบาท
สำหรับราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง เนื่องจากก่อนหน้านี้ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) ระบุว่า ในช่วงที่ตลาดปรับตัวขึ้นแรงเม็ดเงินต่างชาติ (Fund Flow) ไหลเข้าซื้อหุ้นกลุ่มแบงก์ทั้ง BBL, KBANK, KTB หลังจากที่ราคาลงไปมากแล้วจากปัญหาหนี้ NPL จนเทรดต่ำกว่า Book Value อย่างไรก็ตาม มองหุ้น KBANK, KTB ยังมี upside เพราะเทรดที่ 0.68 เท่า มีโอกาสขึ้นไป 0.8 เท่าได้
ขณะที่ราคาหุ้น KBANK ยังอยู่ที่ระดับ 152.50 บาท เมื่อเทียบกับมูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value) อยู่ที่ 229.80 บาท ส่งผลให้ KBANK มีราคาต่ำกว่า Book Value นอกจากนี้ KTB ยังอยู่ที่ระดับ 20.20 บาท เมื่อเทียบกับมูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value) อยู่ที่ 29.45 บาท ส่งผลให้ KTB มีราคาต่ำกว่า Book Value อีกทั้ง BBL ยังอยู่ที่ระดับ 150.50 บาท เมื่อเทียบกับมูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value) อยู่ที่ 285.69 บาท ส่งผลให้ BBL มีราคาต่ำกว่า Book Value
ขณะเดียวกันทาง บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ได้รับอานิสงส์กองทุนวายุภักษ์ 1 ล่าสุด มีการออกหนังสือชี้ชวนแล้วใหผลตอบแทน 3-9% ระดมทุน 1.5 แสนล้านบาท คาดยังเป็นปัจจัยหนุนการฟื้นตัวต่อในไตรมาส 4/67 ซึ่งคัดเลือกหุ้นที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายโดยอ้างอิง หุ้นที่มี ESG Rating A ขึ้นไปสำหรับ SET100 และ AA ขึ้นไปสำหรับหุ้นนอก SET100 โดยเน้นหุ้นที่มี Dividend Yield ราว 3% หรือสูงกว่า หรือหุ้นเติบโตดี (Dividend Yield อาจไม่ถึง 3%)