BVG ปิดซิลลิ่ง! แย้มผลงาน Q3 โตเด่นรับ “ไฮซีซั่น” ทยอยรับรู้แบ็กล็อก 60 ล้าน

BVG ราคาพุ่งชนซิลลิ่ง นิวไฮในรอบกว่า 3 เดือน ผู้บริหารแย้มผลงานไตรมาส 3 โตเด่นรับไฮซีซั่น พร้อมทยอยรับรู้รายได้ธุรกิจให้คำปรึกษา มูลค่า 60 ล้านบาทในช่วงปลายไตรมาส 3 เป็นต้นไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 ก.ย.67) ราคาหุ้น บริษัท บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BVG ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 3.52 บาท บวก 0.82 บาท หรือ 30.37% สูงสุดที่ระดับ 3.52 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.82 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 60.55 ล้านบาท ทำจุดสูงสุดอีกครั้งในรอบกว่า 3 เดือน นับตั้งแต่ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 3.48 บาท เมื่อวันที่ 30 พ.ค.67

นางนวรัตน์ วงศ์ฐิติรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BVG รายงานผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกของปี 67 ว่า บริษัทมีรายได้จากการให้บริการรวม 252 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการให้บริการรวม 249 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 24 ล้านบาท ลดลง 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำไว้ 31 ล้านบาท

โดยครึ่งแรกของปี 67 ธุรกิจแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันสำหรับการเคลมประกันภัยรถยนต์ (ระบบ EMCS) มีการเติบโตอย่างโดดเด่น กวาดกำไร 31 ล้านบาท หรือนับเป็นการเติบโตสูงถึง 26% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีรายได้รวม 121 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 20% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นจากทั้งส่วนของ Claim settlement, Claim notification รวมถึงการให้บริการระบบ AI ในขณะที่ธุรกิจบริหารจัดการสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลและสินไหมทดแทนผ่านระบบแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน (บริการ TPA) ปรับตัวลดลงจากการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิต และบริษัทมีค่าใช้จ่าย One time เกี่ยวกับการสร้างแบรนด์และการศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้ในการขยายธุรกิจใหม่เป็นมูลค่า 5 ล้านบาท

“ในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทมองเห็นเทรนด์การใช้งานระบบ AI ในการเคลมประกันรถยนต์มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจให้บริการด้าน AI Solutions ประมาณ 10% ของรายได้จาก EMCS ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 7% จากความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาระบบที่ตอบโจทย์ลูกค้า เราสามารถเพิ่มฐานลูกค้าที่เป็นบริษัทประกันภัยรถยนต์ให้มาใช้งานระบบของเราได้อย่างต่อเนื่อง

โดยในปลายปีนี้ เราจะเริ่มเปิดใช้บริการระบบ AI Estimate สำหรับการประเมินค่าซ่อมรถยนต์ตั้งแต่ต้นกระบวนการแจ้งเคลมจนถึงกระบวนการจัดซ่อม ซึ่งบริการนี้จะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในการเติมเต็มความแข็งแกร่งของ BlueVenture Group Ecosystem ทำให้สามารถดึงดูดลูกค้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นได้อย่างมีนัยยะสำคัญในอนาคต” นางนวรัตน์ กล่าว

นางนวรัตน์ กล่าวต่อว่า บริษัทคาดแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 3/67 เติบโตเด่นจนถึงครึ่งปีหลัง โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการก้าวเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจ ประกอบกับการปรับกลยุทธ์เพิ่มฐานลูกค้า ด้วยการเน้นเจาะตลาดกลุ่มประเทศเพื่อนอย่าง CLMV ได้แก่ กัมพูชา, สปป.ลาว, มาเลเซีย และเวียดนาม นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการใหม่จากธุรกิจให้คำปรึกษาด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย มูลค่าโครงการราว 60 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 3/67 เป็นต้นไป

Back to top button