PROEN วิ่ง 11% หลังขาย OTT DC ให้ “ซีชอร์ดาต้าเซ็นเตอร์” 833 ล้าน นำเงินจ่ายหุ้นกู้

PROEN บวกแรง 11% นิวไฮรอบ 8 เดือน หลังขายโครงการ OTT DC ให้ “ซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์” มูลค่ารวม 833 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จภายในปี 67 เพื่อเพิ่มสภาพคล่องมากขึ้น ชําระเงินกู้ลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 ก.ย.67) ราคาหุ้น บริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ PROEN ณ เวลา 15:44 น. อยู่ที่ระดับ 3.28 บาท บวก 0.32 บาท หรือ 10.81% สูงสุดที่ระดับ 3.32 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3 บาท มูลค่าซื้อขาย 70.66 ล้านบาท โดยราคาหุ้นขึ้นไปทำจุดสูงสุดอีกครั้งในรอบ 8 เดือน นับตั้งแต่ราคาปิดที่ระดับ 3.43 บาท เมื่อวันที่ 8 ม.ค.67

นายกิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม ประธานกรรมการบริหาร PROEN เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/67 เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 67 มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้เข้าทำรายการจําหน่ายโครงการศูนย์บริการข้อมูล (Data Center) ภายใต้ชื่อโครงการ OTT DC (โครงการ OTT DC) ของบริษัท ให้แก่บริษัท ซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์ แอนด์ คลาวด์ เซอร์วิสเซส จํากัด (ซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์) มูลค่ารวมไม่เกิน 833,204,232.17 บาท โดยจําแนกเป็น

1) อุปกรณ์ Data Center มูลค่า 464,204,232.17 บาท และ

2) ที่ดินและอาคารที่ตั้ง Data Center มูลค่า 369,000,000 บาท

โดยบริษัทคาดว่าจะเข้าทำรายการแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 67 ซึ่งรวมถึงการที่เงื่อนไขบังคับก่อนทั้งหมดที่ระบุไว้ภายใต้สัญญาขายทรัพย์สินและสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมเป็นผลสำเร็จ หรือถือว่าเป็นผลสำเร็จ หรือได้รับการผ่อนผันจากคู่สัญญาที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ เมื่อธุรกรรมการซื้อขายทรัพย์เสร็จสิ้นสมบูรณ์ บริษัทจะเข้าร่วมทุนกับ ซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์ โดยการเข้าซื้อหุ้นของ ซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์ 30% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมดจากผู้ถือหุ้นเดิมของ ซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์ ซึ่งคาดว่าทุนจดทะเบียนของ ซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์ ไม่เกิน 880,000,000 บาท ใช้เงินลงทุนไม่เกิน 264,000,000 บาท โดยบริษัทจะใช้เงินที่ได้รับจากการขายทรัพย์สินโครงการ OTT DC มาซื้อหุ้นดังกล่าวนี้

นอกจากนี้ ภายหลังการทำธุรกรรมการซื้อขายโครงการ OTT DC ซึ่งบริษัทจะได้รับชําระทั้งจำนวนในวันจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยบริษัทมีแผนการใช้เงิน ดังนี้

  1. ชําระเงินค่าหุ้นของซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์ 30% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด จำนวนไม่เกิน 264,000,000 บาท,
  2. ชําระหุ้นกู้ และเงินกู้ธนาคาร จำนวนไม่เกิน 320,000,000 บาท,
  3. ชําระสัญญาเช่าซื้อ จำนวนไม่เกิน 40,000,000 บาท และ 4. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลประโยชน์ที่จะได้รับจะส่งผลทำให้บริษัทมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นภายหลังจากการจําหน่ายทรัพย์สิน เนื่องจากบริษัทมีแผนจะนําเงินที่ได้รับไปชําระเงินกู้ที่มีภาระดอกเบี้ย ทำให้สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยในอนาคตได้ และการจําหน่ายสินทรัพย์จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ร่วมกัน (Synergy) การจัดหาลูกค้าเพื่อเข้าใช้บริการในโครงการศูนย์บริการข้อมูล OTT DC ซึ่งจะทำให้โครงการมีผลการดําเนินงานที่ดี สามารถขยายฐานลูกค้าของบริษัท และจะเกิดประโยชน์ต่อบริษัท เพราะบริษัทนอกจากจะขายทรัพย์สินให้แก่ ซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์ แล้ว บริษัทยังได้เข้าไปร่วมลงทุนและบริหารโครงการดังกล่าวร่วมกับ ซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์ด้วย โดยนำเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินไปร่วมลงทุน 30% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมดจากผู้ถือหุ้นเดิมของซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์

Back to top button