TMI พุ่งต่อ 4% ย้ำรายได้ปีนี้โต 20% รุกโซลาร์ยุโรป 130MW

TMI พุ่งต่อ 4% รับแผนจับมือ “เจียมพัฒนาพลังงาน” ลุยโครงการโซลาร์ฟาร์มในทวีปยุโรป 130 เมกะวัตต์ ดำเนินการต่อเนื่องในระยะเวลา 4 ปี ย้ำผลงานปีนี้รายได้โตตามเป้า 20% จาก 2 ธุรกิจหลัก “ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ส่องสว่างและโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ”


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.67) ราคาหุ้น บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI ณ เวลา 11:07 น. อยู่ที่ระดับ 1.44 บาท บวก 0.05 บาท หรือ 3.60% สูงสุดที่ระดับ 1.45 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.39 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 69.71 ล้านบาท

นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร กรรมการผู้จัดการ TMI เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับบริษัท เจียมพัฒนาพลังงาน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (JEI) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) ในทวีปยุโรป จำนวน 130 เมกะวัตต์ ซึ่งจะดำเนินการต่อเนื่องในระยะเวลา 4 ปี นับจากวันลงนาม (วันที่ 13 กันยายน 2567)

ทั้งนี้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ดังกล่าว เป็นการขยายเป็นธุรกิจภายใต้ บริษัท ธีระมงคล เอนเนอร์ยี จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง TMI และบริษัท เจียมพัฒนาพลังงาน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

โดยบันทึกข้อตกลงดังกล่าว เป็นการแสดงเจตนาร่วมกันของทั้งสองฝ่าย ในการพัฒนาโครงการร่วมกัน ให้สามารถเชื่อมต่อและจำหน่ายไฟฟ้าให้กับโครงข่ายไฟฟ้าในประเทศที่โครงการนั้นตั้งอยู่ได้สำเร็จเท่านั้น ไม่มีผลผูกพัน หรือสร้างภาระผูกพันในข้อผูกมัดทางกฎหมาย ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่อาจขยายความร่วมมือโดยความยินยอมทั้งสองฝ่ายได้

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายจะประสานความร่วมมือระหว่างกันและจะสนับสนุนการดำเนินงาน ตลอดจนติดตามประเมินผลการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทั้งสองฝ่าย

นายธีระชัย กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 67 สามารถทำผลงานเติบโตต่อเนื่อง โดยบริษัทมุ่งมั่นเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางศักยภาพและผลการดำเนินงานในระยะยาว ตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% จาก 2 ธุรกิจหลัก ได้แก่

1.ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ส่องสว่าง ที่มีอัตราการเติบโตโดดเด่นอย่างมีนัยสำคัญตามปัจจัยบวกอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจประเทศ รวมถึงการเข้ายื่นประมูลงานจากโครงการภาครัฐและภาคเอกชน และ

2.ธุรกิจโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ 3 แห่ง รวมกำลังการผลิต 5.4 เมกะวัตต์ โดยเฉพาะการรับรู้รายได้เต็มปีเป็นครั้งแรก จากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าชีวภาพจังหวัดสุพรรณบุรี รวมถึงการลงทุนในธุรกิจขายคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) ที่ปัจจุบันทั่วโลกมีอัตราการเติบโตและขยายตัวสูงขึ้น

“ปีนี้บริษัทวางกลยุทธ์มุ่งขยายธุรกิจหลัก ควบคู่กับการเดินหน้าลงทุนธุรกิจคาร์บอนเครดิต ที่มีแนวโน้มการเติบโตและขยายตัวสูงมาก และการมองหาโอกาสใหม่ ๆ ในหลายรูปแบบ เพื่อต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจและการดำเนินงานอย่างยั่งยืน อันเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนผลการดำเนินงานในอนาคตเติบโตอย่างก้าวกระโดด” นายธีระชัย กล่าว

Back to top button