MCA บวก 5% ลุยขยายฐานธุรกิจใหม่ อัพรายได้ปี 67 แตะ 650 ล้าน

MCA วิ่งเกือบ 5% ปรับเป้ารายได้ปี 67 ขึ้นแตะ 650 ล้านบาท เดินหน้าขยายฐานไปยังธุรกิจใหม่ รุกซื้อหุ้นธุรกิจโปรดักต์ชันเฮาส์พรินติ้งโครงสร้าง งบลงทุน 5 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 ก.ย.67) ราคาหุ้น บริษัท มาร์เก็ต คอนเน็กชั่นส์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ MCA ณ เวลา 12:12 น. อยู่ที่ระดับ 2.28 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 4.59% สูงสุดที่ระดับ 2.42 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.18 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 46.74 ล้านบาท

โดย นายภักดี เหล่างาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MCA เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้ารายได้ปีนี้เป็น 650 ล้านบาท จากเดิม 614 ล้านบาท ซึ่งในช่วงไตรมาส 2-3/67 ปกติจะเป็นช่วงโลว์ซีซัน แต่งานแนะนำสินค้าเติบโตเพิ่มขึ้น 15% และส่วนของผู้จัดจำหน่ายสินค้า (Distribution) เพิ่มขึ้น 15%  ซึ่งในส่วนของดิสทริบิวชันคาดการณ์ว่าปีนี้จะอยู่ที่ 80 ล้านบาท ขณะที่ปี 68 ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 300 ล้านบาท

สำหรับการเติบโตของการจัดจำหน่ายสินค้านั้น จะมีลูกค้าที่เป็นแบรนด์ใหญ่ 2 แบรนด์ ได้แก่ เดนทิสเต้ และสมูทอี เตรียมให้เข้าไปทำการตลาด และแต่งตั้งให้ไปเป็นตัวแทนทั่วประเทศ โดยคาดการณ์รายได้จาก 2 แบรนด์นี้อยู่ที่ 250 ล้านบาท ในส่วนของกำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) จะขยับเพิ่มขึ้นเป็น 15-20% จากเดิมเฉลี่ยอยู่ที่ 12-13%

ส่วนของกิจกรรมทางการตลาดและดิจิทัล ในปีนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 550 ล้านบาท ส่วนปีหน้าที่ 650 ล้านบาท ซึ่งในปีหน้าจะรุกด้านนี้มากขึ้น โดยบริษัทมีเป้าหมายจะเป็น Digital Agency และจะใช้ AI มาช่วยในการทำกิจกรรมทางการตลาดดิจิทัลมากขึ้น ที่ผ่านมาหลังจากที่รัฐบาลมีนโยบาลดิจิทัลวอลเล็ต ส่งผลดีต่อธุรกิจทำให้ลูกค้าหันมาทำกิจกรรมทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังถือเป็นไฮซีซันของธุรกิจในการกระตุ้นยอดขายปลายปี

ขณะที่การขยายฐานไปยังธุรกิจใหม่ ปัจจุบันได้มีการขออนุมัติคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เรียบร้อยแล้วในการซื้อหุ้นธุรกิจโปรดักต์ชันเฮาส์พรินติ้งโครงสร้าง ซึ่งบริษัทนี้เป็นซัพพลายเออร์ให้กับ MCA มาเป็นระยะเวลา 10-20 ปีแล้ว โดยบริษัทใช้งบลงทุนซื้อหุ้น 5 ล้านบาท ถือหุ้นสัดส่วน 50 : 50 คาดว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้นเดือนมกราคม 2568 โดยตั้งเป้ารายได้ปีแรกไว้ที่ 30 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 68 ไว้ที่ 979 ล้านบาท จากดิสทริบิวชัน 300 ล้านบาท โปรดักต์ชันเฮาส์ 30 ล้านบาท ที่เหลือเป็นกิจกรรมทางการตลาด และระหว่างทางอาจจะมีงานเอาต์ซอร์สเข้ามา ที่ผ่านมานโนบายรัฐออกมาทำให้ตลาดคึกคักคนทำกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น ในช่วงสิ้นปีคาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นเช่นกันเนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ

Back to top button