JMT วางเป้ารายได้-กำไรปี 60-61 โตเฉลี่ย 30%-ดันบ.ย่อยเข้าตลาดหุ้นปี 62
JMT เป้ารายได้-กำไรปี 60-61 โตเฉลี่ย 30% จาก JMT Plus ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ ขณะที่เลื่อนกำหนดส่ง บ.ย่อยเข้าตลาดหุ้นจากปี 60 ไปเป็นปี 62 ส่วนธุรกิจที่พม่าร่วมกับ JMART ในการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลนั้นปีแรกตั้งเป้าปล่อยที่สินเชื่อ 30 ลบ.และจะขยายไปพร้อมกับการขยายสาขาของ JMART
นายปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน)ห หรือ JMT เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้และกำไรสุทธิในปีนี้เติบโต 15% จากปี 58 อีกทั้งยังวางเป้าหมายรายได้และกำไรสุทธิปี 60-61 เติบโตเฉลี่ยปีละ 30% โดยการเติบโตในอนาคตจะมาจากธุรกิจ JMT Plus ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ ซึ่งจะมีการเติบโตมากขึ้นและทำรายได้เข้ามาได้เร็วกว่าธุรกิจติดตามหนี้เสีย
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมงบลงทุนไว้ 3 พันล้านบาท โดยแบ่งเป็นการเข้าไปซื้อหนี้เสียจากสถาบันการเงินจำนวน 2 หมื่นล้านบาท โดยใช้เงินลงทุน 1 พันล้านบาท และเงินลงทุนอีก 2 พันล้านบาท จะเป็นการปล่อยกู้ให้กับลูกค้ารายย่อย โดยผ่านแบรนด์ เจ มันนี่ (J-Money) โดยวางเป้าหมายใน 2-3 ปีข้างหน้า จะปล่อยสินเชื่อเติบโตปีละ 2 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 597 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯของ JMT Plus ได้เลื่อนจากปี 60 ไปเป็นปี 62 เนื่องจากบริษัทยังมีงบผลการดำเนินงานที่ขาดทุนอยู่ ทำให้ยังไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด ซึ่งจะต้องมีกำไร 3 ปีติดต่อกัน โดยคาดว่าภายในปี 62 จะนำ JMT Plus เข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ โดยบริษัทได้แต่งตั้ง บล.เอเซียพลัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมร่วมมือกับธนาคารในประเทศญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีด้านสินเชื่อบุคคล คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 3/60 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา ประกอบกับ บริษัทได้เข้าไปทำธุรกิจที่พม่าร่วมกับ JMART ในการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล โดยปีแรกตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 30 ล้านบาท และบริษัทจะขยายไปพร้อมกับการขยายสาขาของ JMART