4 หุ้นยางร่วง! กังวลอียูจ่อเลื่อนบังคับใช้กฎ EUDR ออกไป 1 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงาน (3 ต.ค.67) ว่าราคาหุ้นกลุ่มยางพาราปรับตัวลดลงมา ณ เวลา 10:07 น. นำโดย บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH อยู่ที่ระดับ 3.46 บาท ลบ 0.44 บาท หรือ 11.28% สูงสุดที่ระดับ 3.46 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.04 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 24.29 ล้านบาท

บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA อยู่ที่ระดับ 22.40 บาท ลบ 2.30 บาท หรือ 9.31% สูงสุดที่ระดับ 22.80บาท ต่ำสุดที่ระดับ 22.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 263.89 ล้านบาท

บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TRUBB อยู่ที่ระดับ 1.18 บาท ลบ 0.08 บาท หรือ 6.35% สูงสุดที่ระดับ 1.19 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.14 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.31 ล้านบาท

บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER อยู่ที่ระดับ 5.10 บาท ลบ 0.15 บาท หรือ 2.86% สูงสุดที่ระดับ 5.15 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.05 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 16.12 ล้านบาท

สำหรับราคาปรับตัวลงมา สาเหตุจาก นิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานว่า คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commison) ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรป หรืออียู (EU) จะเสนอให้เลื่อนการบังคับใช้กฎหมายห้ามนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำลายป่า (EU Deforestation Regulation : EUDR) ออกไป 1 ปี หลังจากที่มีการเรียกร้องจากภาคอุตสาหกรรมและรัฐบาลทั่วโลก

โดยกฎหมาย EUDR ได้รับการยกย่องให้เป็นประวัติศาสตร์สำคัญในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ประเทศต่าง ๆ และภาคอุตสาหกรรม ตั้งแต่บราซิลไปจนถึงมาเลเซีย กล่าวว่ากฎหมายดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อกีดกันทางการค้า และอาจทำให้เกษตรกรรายย่อยที่ยากจนหลายล้านคนถูกตัดสิทธิ์การเข้าถึงตลาดสหภาพยุโรปได้

นอกจากนี้ ยังมีคำเตือนอย่างกว้างขวางจากภาคอุตสาหกรรมว่า กฎ EUDR นี้จะรบกวนห่วงโซ่อุปทานของสหภาพยุโรปให้เกิดการชะงัก และจะผลักให้ราคาสินค้าสูงขึ้น

แม้แต่ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเองก็มีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากกฎดังกล่าว โดยเมื่อเดือนมีนาคม 67 มีประเทศสมาชิก 20 ประเทศจากทั้งหมด 27 ประเทศได้ขอให้ฝ่ายนิติบัญญัติของสหภาพยุโรปปรับลดความเข้มงวดของกฎดังกล่าวลงและอาจเลื่อนการบังคับใช้ โดยให้เหตุผลว่ากฎหมายดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรในสหภาพยุโรปเอง ซึ่งจะถูกห้ามส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ปลูกในพื้นที่ที่ถูกทำลายป่า

ทั้งนี้ กฎ EUDR มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2023 และกำลังจะมีผลในทางปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2567 นี้ โดยบังคับใช้กับทั้งผู้ประกอบการและผู้ค้าที่จะจำหน่ายสินค้าในตลาดอียู โดยกำหนดว่าสินค้าต้องผ่านเงื่อนไข 3 ข้อคือ (1) ต้องไม่มาจากการบุกรุกพื้นที่ป่า (2) ต้องมีกระบวนการผลิตที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศผู้ผลิต และ (3) ต้องมีการตรวจสอบและประเมินสินค้า (Due Diligence)

ขณะเดียวกัน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า กลุ่มยาง คือ STA และ TEGH อาจได้รับผลกระทบจากกรณีที่คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอให้ขยายระยะเวลาปรับตัวสำหรับกฎระเบียบ EUDR ออกไปอีก 12 เดือน จากเดิมที่กำหนดให้เริ่มบังคับใช้ 30 ธ.ค.67 นี้ เพื่อให้เวลาผู้ประกอบในแต่ละประเทศปรับตัว สำหรับการส่งสินค้า 7 กลุ่มเข้าไปในยุโรป ได้แก่ ยางพารา, ปาล์มน้ำมัน, วัว, โกโก้, กาแฟ, ถั่วลิสง และไม้

ถือเป็น Sentiment เชิงลบต่อกลุ่มยาง โดยเฉพาะ STA และ TEGH ที่เริ่มมีการขายยาง EUDR แล้ว เพราะหากเลื่อนออกไปจริง อาจทำให้คู่แข่งประเทศอื่นปรับตัวได้ทัน และทำให้ความได้เปรียบจากราคายาง EUDR ยังสูง เพราะ Supply ที่ยังมีน้อย ลดลง อย่างไรก็ตาม ยังเป็นเพียงข้อเสนอของคณะกรรมาธิการฯ ยังต้องรอความชัดเจนด้วยการได้รับอนุมัติจากรัฐสภายุโรปก่อน