“กลุ่มกัลฟ์” วิ่งต่อ! โบรกชี้ NewCo น่าลงทุน รับประมูล “ขายไฟ” รอบใหม่
“กลุ่มกัลฟ์” วิ่งต่อ! โบรกชี้ NewCo รับปัจจัยบวกจากประเด็นความคืบหน้าจากควบรวมบริษัท และเปิดรับซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาดเฟส 2 จาก กกพ. คงคำแนะนำเน้นหาจังหวะเข้าทยอยสะสมลงทุนระยะยาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 ต.ค.67) ณ เวลา 10:14 น. ราคาหุ้น บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF อยู่ที่ระดับ 65.00 บาท บวก 2.25 บาท หรือ 3.59% สูงสุดที่ระดับ 65.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 63.00บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 505.48 ล้านบาท
ด้านราคาหุ้น บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH อยู่ที่ระดับ 105.00 บาท บวก 2.00 บาท หรือ 1.94% สูงสุดที่ระดับ 105.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 103.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 420.38 ล้านบาท
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC อยู่ที่ระดับ 274.00 บาท บวก 2.00 บาท หรือ 0.74% สูงสุดที่ระดับ 275.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 272.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 208.69 ล้านบาท
บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM อยู่ที่ระดับ 15.10 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 3.42% สูงสุดที่ระดับ 15.20 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 14.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 293.71 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ระบุว่า ที่ประชุมอนุมัติจัดตั้ง NewCo คาดการณ์ทำรายการแล้วเสร็จปี 2568 ที่ประชุมผู้ถือหุ้น GULF มีมติอนุมัติการเข้าทำธุรกรรมการควบรวมบริษัทระหว่าง GULF และ INTUCH และทำคำเสนอซื้อทั้งหมดโดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไข (Conditional Voluntary Tender Offer : VTO) ของ ADVANC และ THCOM ด้วย สัดส่วนคะแนนเสียงเห็นด้วย:ไม่เห็นด้วยที่ 99.9931 : 0.0068
ส่งผลให้ GULF และ INTUCH จะสิ้นสุดสภาพจากการเป็นนิติบุคคล และมีสถานะเป็นบริษัทมหาชนจำกัดใหม่ (NewCo) โดยมีอัตราส่วนการจัดสรรหุ้นที่ 1 หุ้นเดิมใน GULF ต่อ 1.02974 หุ้น NewCo และ 1 หุ้นเดิมใน INTUCH ต่อ 1.69335 หุ้น NewCo โดยคาดดีลจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568
ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวถือเป็นความคืบหน้าตามแผนกลยุทธ์ของ GULF ในการปรับโครงสร้างภายในบริษัท เพื่อลดความซับซ้อนของโครงสร้างการถือหุ้น ซึ่งจะทำให้การบริหารจัดการภายในกลุ่มบริษัทมีความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งจะช่วยให้มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และรับรู้กำไรและกระแสเงินสดได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นส่วนช่วยสร้างโอกาสการเติบโต และการเกิด synergy ใหม่ๆ ในธุรกิจ digital Infrastructure ของ GULF ในระยะกลาง-ยาว ได้มากกว่าการถือหุ้น ADVANC โดยอ้อมแบบเดิม
หลังจากนี้ GULF จำเป็นต้องมีหน้าที่ทำคำเสนอซื้อทั้งหมด โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไข (Conditional Voluntary Tender Offer : VTO) ของทั้ง ADVANC และ THCOM เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ Chain Principle ของ กลต. โดยสามารถใช้เงินกู้ได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีสถาบันการเงินให้เครดิตเงินกู้แก่ GULF เกือบ 4.0 แสนล้านบาท แต่เบื้องต้น คาดจะใช้วงเงินราว 8.9 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วยวงเงินสำหรับ VTO ใน ADVANC ราว 8.2 หมื่นล้านบาท และใน THCOM ราว 7 พันล้านบาท
โดยธุรกรรม VTO จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนการควบรวมบริษัท ซึ่งคาดกรอบระยะเวลาจะอยู่ในช่วง ไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 -ไตรมาสที่1 ของ ปี 68 รวมถึงจะจัดให้มีการรับซื้อหุ้น GULF จากผู้ถือหุ้นทั้งหมดที่ออกเสียงคัดค้านธุรกรรมควบรวมบริษัท จำนวน 715,100 หุ้น ที่ราคาปิด ณ วันที่ 2 ต.ค. 2567 เท่ากับ 56.50 บาท คิดเป็นมูลค่า 40.4 ล้านบาท
นอกจากนี้ INTUCH จะจ่ายปันผลพิเศษในอัตรา 4.5 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังขั้นตอนการรับซื้อหุ้นจากผู้ที่คัดค้าน และเกิดขึ้นก่อนการควบรวมบริษัทจะดำเนินการแล้วเสร็จ ซึ่งคาดจะอยู่ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2568
อย่างไรก็ตามสำหรับภาพรวมธุรกิจ NewCo ผู้บริหารเผยมุมมองว่าในระยะเริ่มต้นจะมีสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจไฟฟ้า ในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ 80:20 แต่อย่างไรก็ตาม ในระยะถัดไปอาจอยู่ที่ 50:50 เนื่องจากธุรกิจโทรคมนาคม Data Center และ Cloud ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในระยะยาว โดยตั้งแผนจะขยายธุรกิจ Data Center เพิ่มอีกราว 100 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่มีในแผนแล้วราว 50 เมกะวัตต์ ในขณะที่ธุรกิจ Cloud ซึ่งได้ร่วมมือกับ Google คาดจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับแผนธุรกิจมากขึ้นในช่วงต้นปี 2568
ในด้านของธุรกิจไฟฟ้ายังมี upside ส่วนเพิ่มจากการเปิดรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในประเทศไทยรอบ 2 อีก 3.7 พันเมกะวัตต์ ซึ่ง GULF คาดจะเป็นผู้ได้รับโครงการไม่ต่ำกว่า 20% ของจำนวนที่เปิดรับซื้อร่วมกับพันธมิตร
เบื้องต้นฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการและมูลค่าพื้นฐานปี 2567 ของ GULF โดยยังอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการและประเมินมูลค่าพื้นฐาน โดยมอง NewCo ช่วงระยะสั้นคาดยังมีปัจจัยบวกจากประเด็นความคืบหน้าจากการควบรวมบริษัท และการเปิดรับซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาด phase 2 จาก กกพ. คงคำแนะนำเน้นหาจังหวะเข้าทยอยสะสมลงทุนระยะยาว