MC เพิ่มงบตลาด-ขยายสาขาอีก 50 แห่งดันรายได้โต 15%
MC เพิ่มงบตลาด-ขยายสาขาอีก 50 แห่งดันรายได้โต 15%
นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC เปิดเผยว่า บริษัทจะพยายามนำ MC กลับเข้าสู่ SET100 หลังจากปี 58 หุ้น MC ได้ถูกคัดออกจาก SET100 โดยบริษัทจะเดินหน้าสร้างผลการดำเนินงานให้กลับมาเติบโตจนเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุน ด้วยการตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 15% จากปีก่อน รักษาระดับอัตรากำไรสุทธิที่ 20% และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 58%
บริษัทมีแผนจะกระตุ้นยอดขายด้วยการออกแคมเปญเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปี 58 โดยใช้งบการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 2-3% ของรายได้รวม จากปีก่อนใช้ไป 1-2% ของรายได้รวม โดยคาดหวังยอดขายของสาขาเดิมจากพลิกกลับมาเป็นบวกในปีนี้ หรือ เติบโต 2% จาก 9 เดือน 58 ที่ติดลบ 1%
นอกจากนี้ บริษัมจะขยายสาขาและจุดจำหน่านเพิ่มอีก 50 แห่ง ใช้งบลงทุนทั้งสิ้น 150 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการเพิ่มจุดจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า และในปั๊มน้ำมัน ซึ่งจะทำให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของบริษัทมากขึ้น
ส่วนการขยายไปตลาดต่างประเทศนั้น นางสาวสุณี กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาเลือกประเทศที่เหมาะสม มีศักยภาพ และสามารถสร้างการเติบโตให้กับยอดขาย เช่น ฮ่องกง จีน และสิงคโปร์ เป็นต้น แต่คงยังไม่เร่งรีบนัก เนื่องจากจะต้องใช้เวลาพอสมควรในการศึกษาตลาดและหาพันธมิตร ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ดี ทำให้บริษัทหันมาเน้นการพัฒนาร้าน Timedeco ในประเทศให้ดีขึ้นก่อน
นางสาวสุณี กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนการพัฒนาและเพิ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวการบำรุงผิว จากก่อนหน้านี้บริษัทได้รทดลองเปิดตัวมาแล้ว และได้รับการตอบรับที่ดี สามารถสร้างยอดขายได้สัปดาห์ 10,000 กระปุก ซึ่งจากนี้ไปก็จะเพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการบำรุงผิวในเกรดพรีเมียมให้มากขึ้น โดยมีทีมงานดูแลผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ และการขายโดยตรง คาดว่าจะทยอยออกสินค้าอย่างสม่ำเสมอ เน้นไปที่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย และขายควบคู่ไปกับสินค้าแฟชั่น
ในปีนี้บริษัทยังมีแผนที่จะเดินสายให้ข้อมูลกับนักลงทุน (โรดโชว์) อย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นคาดว่าจะไปที่สิงคโปร์ ฮ่องกง ยุโรป และสหรัฐฯ หลังจากมีนักลงทุนสถาบันต่างประเทศเข้ามาติดต่อขอรับทราบข้อมูล และแผนธุรกิจของบริษัท แต่บริษัทไม่ได้คาดหวังสัดส่วนกลงทุนสถาบันต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ในปัจจุบัน เพราะมองว่าเป็นระดับที่เหมาะสมแล้ว แต่ต้องการเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนรายย่อยมากขึ้น เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของหุ้น