FM บวก 3% แย้มรายได้ Q3 เด่น เดินหน้าส่งออก “เนื้อไก่ดิบ” – ปิดดีลธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง
FM วิ่ง 3% ส่งซิกรายได้ไตรมาส 3/67 แจ่ม! และโตต่อเนื่องในไตรมาส 4/67 เริ่มส่งออกเนื้อไก่ดิบล็อตแรกไป UAE พร้อมเล็งปิดดีลลงทุนธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงปลายปีนี้ มั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้าเติบโต 25-30%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 ต.ค.67) ราคาหุ้น บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ FM ณ เวลา 12:01 น. อยู่ที่ระดับ 4.46 บาท บวก 0.12 บาท หรือ 2.76% สูงสุดที่ระดับ 4.54 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.36 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 56.14 ล้านบาท
นายณัฐพล ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FM เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/67 ในแง่ของรายได้ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทประเมินไว้ โดยปริมาณการขายในไตรมาสนี้ไม่ได้ลดลง ส่วนกำไรได้รับผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่าบ้างในเดือนกันยายน เพราะบริษัทมีการส่งออกสินค้าบางส่วนในช่วงนั้น แม้บริษัทจะมีการทำ Hedging (การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน) ไว้แล้ว ขณะที่การดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 ยังคงมีทิศทางที่ดี แต่ยังคงต้องติดตามว่าจะดีมากขนาดไหน เนื่องจากเงินบาทที่แข็งค่ายังเป็นปัจจัยภายนอกที่กดดัน
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทมั่นใจรายได้รวมจะเติบโตประมาณ 25-30% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 5,791 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมแล้ว 3,646.29 ล้านบาท โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการลงทุนขยายกำลังการผลิตตามแผนที่วางไว้ ขณะเดียวกันบริษัทยังมีการเปิดตลาดใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งในไตรมาส 4/2567 จะเริ่มมีการส่งมอบเนื้อไก่ดิบล็อตแรกไปยังตลาดตะวันออกกลาง เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) นอกจากนี้ ยังมีลูกค้าเกาหลี ซึ่งเป็นลูกค้าที่ส่งสินค้าไปญี่ปุ่น ยุโรป โดยลูกค้ารายนี้จะสั่งสินค้าไก่แปรรูปปรุงสุก
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายสัดส่วนการส่งออกเพิ่มเป็น 65% ภายใน 3 ปีจากนี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 50% ส่วนการบริหารค่าเงินนั้น บริษัทได้มีการทำ Hedging ไว้บางส่วน และการทำ Pricing (การตั้งราคาขาย) ของสินค้า ซึ่งจะมีออเดอร์ล่วงหน้า 3 เดือนก่อนส่งสินค้า จึงสามารถปรับราคาได้
ขณะที่กำลังการผลิตในไตรมาส 4/2567 มีปริมาณการผลิตไก่ดิบเพิ่มขึ้นประมาณ 15% โดยยังคงใช้เครื่องจักรเดิม แต่กำลังการเชือดไก่เพิ่มเป็น 130,000 ตัวต่อวัน (จากเดิมที่เชือด 110,000 ตัวต่อวัน) ซึ่งในช่วงปลายไตรมาส 2/2567 ที่ผ่านมา บริษัทได้มีการขยายไก่แปรรูปปรุงสุกเพิ่มไว้แล้วเป็น 27,000 ตัน แต่อานิสงส์ยังไม่เด่นชัด ซึ่งในไตรมาส 3/2567 ปริมาณการขายไก่แปรรูปปรุงสุขเพิ่มขึ้น แต่มีปัจจัยเรื่องค่าเงินกดดัน
ส่วนการลงทุนธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง เพื่อสร้าง New Growth คาดว่าจะมีความชัดเจนว่าจะสามารถปิดดีลได้หรือไม่ในปลายปีนี้ โดยบริษัทจะเข้าไปถือหุ้นในบริษัทที่ดำเนินกิจการอยู่แล้ว ซึ่งจะเริ่มจากการเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 25-35% (ขึ้นอยู่กับการเจรจา) โดยมีขนาดกำลังการผลิตประมาณ 2,000 ตันต่อเดือน และมียอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี แต่หากไม่สามารถปิดดีลได้บริษัทจะพิจารณาวิธีลงทุนอื่น ๆ