TOP ร่วง 2% เหตุรับเหมากลุ่ม UJV เบี้ยวจ่าย โครงการ CFP หลังแผน COD ส่อเลื่อนยาว

TOP ร่วง 3% โดนดาวน์ไซด์กดราคาดิ่ง กำไรหาย 50% เซ่นพิษต้นทุนโครงการพลังงานสะอาด (CFP) บานปลาย หลังแผน COD ส่อเลื่อนยาว ด้าน 16 ผู้รับเหมาช่วงไทยแค้น ระดมพล 3,000 คน ประท้วงรับเหมาต่างชาติเบี้ยวจ่าย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ต.ค. 67) ราคาหุ้น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ณ เวลา 10:35 น. อยู่ที่ระดับ 46.25 บาท ลบ 1.50 บาท หรือ 3.14% สูงสุดที่ระดับ 47.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 46.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 197.70 ล้านบาท

สำหรับราคาหุ้นปรับตัวลง สาเหตุจากกรณีผู้รับเหมาชาวต่างชาติกลุ่ม UJV กิจการร่วมค้าระหว่าง Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd. (Samsung) จากประเทศเกาหลีใต้, Petrofac South East Asia Pte. Ltd. (Petrofac) และ Saipem Singapore Pte. Ltd. (Saipem) ผู้รับเหมาหลักในการก่อสร้างโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project : CFP) ให้กับ TOP มีการค้างชำระค่าจ้างให้แก่บริษัทรับเหมาช่วง 16 บริษัทนั้น ล่าสุดหลังจากมีการชุมนุมประท้วงเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2567 บริเวณหน้าโครงการ CFP โดยมีผู้เข้าร่วมชุมนุมทั้งผู้รับเหมาช่วงและผู้รับเหมาย่อยรวมกว่า 3,000 คน ล่าสุดยังไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด ส่งผลให้โครงการ CFP ต้องเลื่อนเปิดดำเนินการออกไปอย่างไม่มีกำหนด

สำหรับรายชื่อผู้รับเหมาช่วงคนไทยทั้ง 16 บริษัท ได้แก่ 1) CAZ (Thailand) PCL (CAZ) 2) CHART Karnchang Laemchabang Co.,Ltd. (CKC) 3) CMG Engineering and Construction Co.,Ltd. (CMG) 4) Firstcon Construction Co.,Ltd. (FSC) 5) IETL Co.,Ltd. (IETL) 6) Italthai Engineering Co.,Ltd. (ITE) 7) Logthai-Hai Leck Engineering (LTHL) 8) Raikothong Construction & Service Co.,Ltd. (RCS)

9) Rayong Maintenance and Contracting (RMC) 10) Sriracha Construction PLC. 11) The Seaboard D&C Co.,Ltd. (SBD) 12) Sino-Thai Engineering & Construction PCL. (STECON) 13) SWOT Construction Co.,Ltd. (SWOT) 14) Thai Jurong Engineering Limited (TJEL) 15) THAI ROTARY ENGINEERING PLC. (TREL) และ 16) V.A.P Service (1997) co.,Ltd. (VAP)

โดยแหล่งข่าวระดับสูงจาก บริษัท ซี เอ แซด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CAZ เปิดเผยว่า ในเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินการฟ้องร้องกลุ่มบริษัท UJV ต่อศาลแพ่งจังหวัดชลบุรี เนื่องจากผิดสัญญาจ้างตามงวดงานที่ส่งมอบไปก่อนหน้านี้ ทำให้ปัจจุบันมีหนี้ค้างชำระค่าจ้างอยู่ประมาณ 200-300 ล้านบาท

โดยศาลแพ่งจังหวัดชลบุรีออกหมายเรียกผู้รับเหมาหลัก (UJV) โครงการพลังงานสะอาด หรือ CFP ให้มาเจรจาในปลายเดือนตุลาคมนี้ เพื่อหาทางออกในกรณีดังกล่าว ซึ่งอาจเป็นลักษณะทยอยจ่ายหนี้ที่ค้างชำระ งวดแรกประมาณ 80 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันพบว่ากลุ่มรับเหมาต่างชาติ UJV กำลังขาดสภาพคล่องอย่างหนัก

“ก่อนหน้านี้เราทำหนังสือไปถึง UJV แล้ว แต่ก็ทำเพิกเฉย ดังนั้นจึงต้องฟ้องศาลเพื่อให้ออกหมายเรียกมาเจรจากัน เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวมาก ต้องรับภาระค่าจ้างพนักงานและผู้รับเหมาย่อยไปก่อน อย่างไรก็ตามบริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TAKUNI ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ได้เข้ามาดูแลระดับหนึ่งแล้ว

ขณะที่ การชุมนุมประท้วงเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2567 Sriracha Construction PLC. บริษัทจดทะเบียนในตลาดฯ ได้เข้าร่วมชุมนุมประท้วงเป็นครั้งแรก แต่จากการสอบถามไปยังบริษัทฯ ยังไม่ได้ให้ความเห็นสำหรับกรณีนี้แต่อย่างใด

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุ โครงการ CFP ของไทยออยล์ ยังมีความเสี่ยงต่อความล่าช้าในการก่อสร้าง (ปัจจุบันคาด COD ในปี 2568 เทียบกับแผนเดิมไตรมาส 1/66) จนทำให้บริษัทมีการรับรู้ผลขาดทุนจากต้นทุนเกินงบประมาณ หรือ cost overrun ไป 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.8 หมื่นล้านบาท) ซึ่งส่วนเพิ่มจากงบลงทุนเดิมของโครงการที่ 4.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.6 แสนล้านบาท จากเหตุการณ์ระบาดของ COVID-19

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้รับเหมาช่วง 16 บริษัท ไม่ได้รับเงินค่าจ้างจาก Unincorporated Joint Venture of Petrofac, Saipem, Samsung (UJV) (ผู้รับเหมาหลักของโครงการ) นานกว่า 6 เดือน ทำให้เห็นความเสี่ยงที่เป็นไปได้ที่บริษัทอาจจะต้องรับรู้ cost overrun เพิ่มเติม

โดยบล.ดาโอ ปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลง 49% เป็น 9,700 ล้านบาท และกำไรปี 2568 ลง 43% เป็น 11,000 ล้านบาท โดยได้ปรับลด Target multiple ลงจากเดิมที่ 0.84 เท่า (ประมาณ -1.0 SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย P/BV 5 ปีย้อนหลัง) เพื่อสะท้อนความเสี่ยงโครงการ CFP ที่สูงขึ้น อาจทำให้บริษัทต้องมีการรับรู้ต้นทุนบานปลาย (cost overrun) เพิ่มเติม ปรับราคาเป้าหมายใหม่ 55 บาท จากเดิม 65 บาท

ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลจากความล่าช้าของโครงการ CFP จะส่งผลต่อประมาณการค่าการกลั่นในอนาคตหลัง COD โครงการพลังงานสะอาดที่จะลดลงประมาณ 5 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หากโครงการไม่สามารถเสร็จตามแผนในปี 2568

นอกจากนี้ ยังมีต้นทุนทางการเงินของบริษัทที่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ก็เกินงบประมาณที่ตั้งไว้แล้ว ทำให้มีโอกาสสูงที่ TOP จะถูกดาวน์ไซด์ หรือปรับลดราคาเป้าหมายในอนาคต

Back to top button