น้ำมันดิบปิดพุ่งรับข่าวรัสเซียเปิดทางเจรจาโอเปก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) หลังจากที่รัสเซียส่งสัญญาณพร้อมเปิดช่องทางในการเจรจากับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) เพื่อร่วมมือกันกระตุ้นราคาน้ำมัน โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นและสามารถสกัดปัจจัยลบจากรายงานที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 2.4 ดอลลาร์ หรือ 8% ปิดที่ 32.28 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 2.32 ดอลลาร์ หรือ 7.1% ปิดที่ 35.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากนายเซอร์ไก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ถ้าหากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆ มีความเห็นพ้องกันในการจัดประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับการผลิตน้ำมัน ท่ามกลางการดิ่งลงของราคาน้ำมันในตลาด รัสเซียก็พร้อมเข้าร่วมการประชุม นายลาฟรอฟกล่าวย้ำว่า รัสเซียมีความพร้อมสำหรับความร่วมมือในรูปแบบต่างๆ หากหลายประเทศมีความเห็นพ้องกันในการจัดประชุมระหว่างกลุ่มโอเปก และผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆ
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดูความเคลื่อนไหวของรัสเซียมาโดยตลอด นับตั้งแต่มีข่าวว่าซาอุดิอาระเบียได้เสนอให้ผู้ผลิตน้ำมันทั่วโลกพร้อมใจกันลดกำลังการผลิต 5% เพื่อแก้ปัญหาราคาน้ำมันตกต่ำจากสาเหตุของปริมาณน้ำมันล้นตลาด
ความเคลื่อนไหวของรัสเซียทำให้เกิดความหวังว่า หากรัสเซียและโอเปกสามารถตกลงกันได้ในเรื่องการปรับลดกำลังการผลิต ก็จะช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกให้สูงขึ้น หลังจากที่ราคาน้ำมันอ่อนแรงลงอย่างมาก อันเนื่องมาจากภาวะอุปทานล้นตลาด
นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวยังสามารถสกัดปัจจัยลบจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 ม.ค. เพิ่มขึ้น 7.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 502.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 5.9 ล้านบาร์เรล