ดอลล์ร่วงหลังตลาดผิดหวังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) โดยได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของสหรัฐและถ้อยแถลงของนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขานิวยอร์ก


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโร (3 ก.พ.) แข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1092 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0909 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.4598 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4414 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 117.72 เยน จาก 120.17 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0052 ฟรังก์ จาก 1.0208 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7178 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7049 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวย่ำแย่ หลังจากผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ภาคบริการของสหรัฐได้ชะลอตัวลงในเดือนม.ค. โดยดัชนีภาคบริการของ ISM อยู่ที่ระดับ 53.5 ในเดือนม.ค. ซึ่งลดลงจากระดับ 55.8 ในเดือนธ.ค. และยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 55.1 ข้อมูลภาคบริการที่น่าผิดหวังของสหรัฐได้หนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบสำหรับดอลลาร์

ขณะเดียวกัน การแสดงความเห็นของนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ก็ได้กดดันดอลลาร์สหรัฐด้วย โดยเขากล่าวว่า สภาวะทางการเงินมีความตึงตัวอย่างมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. และเฟดจะต้องพิจารณาปัจจัยดังกล่าวในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนมี.ค. หากภาวะดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไป

นายดัดลีย์ยังระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ และการแข็งค่าของดอลลาร์ จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐ คำกล่าวของนายดัดลีย์เป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. หลังจากมีการคาดการณ์กันก่อนหน้านี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนดังกล่าว ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า ความเห็นของนายดัดลีย์ ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ บ่งชี้ว่าเฟดอาจจะไม่สามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในปีนี้ เมื่อพิจารณาจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ

Back to top button