ราคาทองคำปิดพุ่ง 14 ดอลล์ หลังเฟดส่งสัญญาณยังไม่ขึ้นดบ.
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 14 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และหลังจากนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขานิวยอร์ก ส่งสัญญาณว่า เฟดยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 14.1 ดอลลาร์ หรือ 1.25% ปิด (3 ก.พ.) ที่ 1,141.30 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 44.5 เซนต์ หรือ 3.11% ปิดที่ 14.734 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 24.4 ดอลลาร์ หรือ 2.85% ปิดที่ 880.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 24.25 ดอลลาร์ หรือ 4.9% ปิดที่ 515.55 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำอย่างคึกคัก หลังจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ อันเนื่องมาจากรายงานของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ที่ระบุว่า ภาคบริการของสหรัฐได้ชะลอตัวลงในเดือนม.ค. ทั้งนี้ ดัชนีภาคบริการของ ISM อยู่ที่ระดับ 53.5 ในเดือนม.ค. ซึ่งลดลงจากระดับ 55.8 ในเดือนธ.ค. และยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 55.1
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนหลังจากนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวว่า สภาวะทางการเงินมีความตึงตัวอย่างมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. และเฟดจะต้องพิจารณาปัจจัยดังกล่าวในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนมี.ค. หากภาวะดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไป การแสดงความเห็นของนายนายดัดลีย์เป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. หลังจากมีการคาดการณ์กันก่อนหน้านี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนดังกล่าว
ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้สหรัฐจะเปิดเผย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ประสิทธิภาพการผลิต-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเบื้องต้นในไตรมาส 4/58 และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค. ส่วนในวันพรุ่งนี้ สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. และข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค.