SPCG ตั้งเป้าปีนี้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มจากปีก่อน-ลงทุน 1 พันลบ.เน้นโซลาร์ตปท.
SPCG ตั้งเป้าปีนี้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มจากปีก่อน-ลงทุน 1 พันลบ.เน้นโซลาร์ตปท.
นางสาววันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิในปีนี้เพิ่มขึ้นจาก 45% ในปีก่อน ซึ่งเป็นการเติบโตตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายได้ของบริษัทเติบโตขึ้นด้วย โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.5 พันล้านบาท หรือเติบโต 10% จากราว 5 พันล้านบาทในปีก่อน ขณะที่ดอกเบี้ยจ่ายลดลงเฉลี่ยปีละ 300 ล้านบาท จากการออกหุ้นกู้มูลค่า 1.25 หมื่นล้านบาทเมื่อเดือนธ.ค.58 เพื่อนำไปชำระคืนหนี้สถาบันทางการเงิน 1.23 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ตามแผน 5 ปี (ปี 58-62) บริษัทจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็นไม่ต่ำกว่า 500 เมกะวัตต์จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือ 261 เมกะวัตต์ โดยวางงบลงทุนไน 5 ปีดังกล่าวไว้ที่ระดับ 3-4 พันล้านบาท โดยจะเน้นขยายไปยังต่างประเทศ ทั้งในเมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ ขณะที่ในวันที่ 9 ก.พ.นี้ จะเปิดเผยรายละเอียดของโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ประเภทโซลาร์ฟาร์ม ในญี่ปุ่นด้วย
สำหรับการขยายกำลังการผลิตในประเทศ ปัจจุบันบริษัทรอความชัดเจนจากโครงการโซลาร์ฟาร์มส่วนราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ซึ่งมีความล่าช้า แต่ถ้าหากเกิดขึ้นจริงบริษัทก็อาจจะไปร่วมกับพันธมิตร ซึ่งคาดว่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 50 เมกะวัตต์ แต่ทั้งนี้คงต้องรอดูความชัดเจนจากภาครัฐอีกที
ส่วนในปีนี้บริษัทวางงบลงทุนไว้ 1 พันล้านบาท เพื่อใช้ขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าอีก 100 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้สิ้นปี 59 บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งหมดอยู่ที่ 361 เมกะวัตต์ จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 261 เมกะวัตต์
อีกทั้งบริษัทตั้งเป้าปี 59 มีสัดส่วนรายได้จากการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป)เพิ่มเป็น 20% จากปี 58 อยู่ที่ 3-4% แม้ว่างานดังกล่าวอาจจะมีมาร์จิ้นไม่สูงมากนัก แต่ยังมีโอกาสการเติบโตได้ ซึ่งบริษัทได้ไปร่วมกับพันธมิตรอย่างล่าสุดร่วมมือกับ บมจ.ธนาพัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ เพื่อติดตั้ง โซลาร์รูฟบนหลังคาของโครงการ ซึ่งจากนี้หากธนาพัฒน์ฯ เปิดโครงการอื่นๆในอนาคตบริษัทก็จะร่วมติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปด้วย