ราคาทองคำปิดวานนี้พุ่งกว่า 16 ดอลล์
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และหลังจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาส่งสัญญาณว่า เฟดยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 16.2 ดอลลาร์ หรือ 1.42% ปิด (4 ก.พ.) ที่ระดับ 1,157.50 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 11.6 เซนต์ หรือ 0.79% ปิดที่ 14.85 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 26.2 ดอลลาร์ หรือ 2.98% ปิดที่ 906.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ขยับขึ้นเล็กน้อยและปิดที่ระดับ 515.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง โดยเมื่อดอลลาร์อ่อนค่าจะส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น
นักลงทุนในตลาดทองคำยังขานรับการส่งสัญญาณที่ว่า เฟดอาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ส่งสัญญาณว่า เฟดยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า เมื่อพิจารณาจากสภาวะการเงินที่ยังคงตึงตัว ด้านนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องใช้ความอดทนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัว และภาวะตึงตัวมากขึ้นในตลาดการเงินโลก
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังกระตุ้นให้นักลงทนุเข้าซื้อทองคำเพื่อความปลอดภัย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 285,000 ราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 280,000 ราย
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐร่วงลงหนักที่สุดในรอบ 1 ปีในเดือนธ.ค. โดยยอดสั่งซื้อร่วงลง 2.9% เนื่องจากผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และอุปสงค์ที่อ่อนแอในต่างประเทศ