“สมคิด” นำทีมบินศรีลังกา 9-12 มี.ค.นี้ หวังกระชับสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ
"สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" นำทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจบินศรีลังกา 9-12 มี.ค.นี้ หวังกระชับสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ-การค้า-ลงทุน
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มีกำหนดจะเดินทางไปเยือนศรีลังกา ในระหว่างวันที่ 9-12 มีนาคม 2559 พร้อมด้วยรัฐมนตรีเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกัน ซึ่งจะมีกิจกรรมต่างๆ ช่วงการเยือน อาทิ การหารือผู้แทนระดับสูงของรัฐบาล การจัด Business Forum การจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) เป็นต้น
โดยไทยและศรีลังกามีศักยภาพที่สามารถขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกันในสาขาต่างๆ ได้ อาทิ ด้านอัญมณีและเครื่องประดับ ด้านการประมง ด้านยาและเวชภัณฑ์ ด้านอุตสาหกรรมเกษตร และด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะผลักดันให้มีการประชุมคณะอนุกรรมการด้านการค้า (Sub – Committee on Trade Related Matters) ไทย – ศรีลังกา ครั้งที่ 2 โดยมีอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นผู้นำคณะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว เพื่อเป็นช่องทางการแสวงหาโอกาสการค้าและการลงทุนระหว่างกัน และเป็นการหารือในประเด็นการค้าและการลงทุน เพื่อหาแนวทางการส่งเสริมให้มูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศสามารถบรรลุเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ที่ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2559
อนึ่ง ศรีลังกาเป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 4 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ ในขณะที่ไทยเป็นคู่ค้าอันที่ 4 ของศรีลังกาในภูมิภาคอาเซียน (รองจากสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย) การค้าระหว่างไทยและศรีลังกาในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา (2554-2558) มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 521.26 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในปี 2558 การค้ารวมมีมูลค่า 488.06 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.12 ของการค้าทั้งหมดของไทย โดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า 380.02 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปศรีลังกา ได้แก่ ผ้าผืน ปลาแห้ง รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำตาลทราย เม็ดพลาสติก ยางพารา เคมีภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนสินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องประดับอัญมณี ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ เครื่องจักรไฟฟ้า กาแฟ ชา เครื่องเทศ เคมีภัณฑ์ เป็นต้น