น้ำมันดิบปิดลบ ตลาดวิตกปริมาณสูงเกินดีมานด์

สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิด (5 ก.พ.) ร่วงลง 83 เซนต์ หรือ 2.6% แตะที่ 30.89 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ปิดลดลง 40 เซนต์ หรือ 1.2% ที่ 34.06 ดอลลาร์/บาร์เรล

ความวิตกเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันยังคงเป็นปัจจัยถ่วงสัญญาน้ำมัน WTI หลังจากที่ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 7.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 502.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ปัจจัยพื้นฐานของน้ำมันยังคงอ่อนแอ ขณะที่บรรดาผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ยังไม่มีแนวโน้มที่จะปรับลดปริมาณการผลิต แม้ว่าราคาน้ำมันได้ร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันปรับตัวลงต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงสัปดาห์นี้ รัสเซียส่งสัญญาณพร้อมเปิดช่องทางในการเจรจากับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) เพื่อร่วมมือกันกระตุ้นราคาน้ำมัน ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเริ่มย่ำแย่ลง และราคาน้ำมันจะเผชิญแรงกดดันอีกครั้งจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ ล่าสุด กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. จากระดับ 262,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง

อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2551 เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 5.0% ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานวันนี้ว่า ตัวเลขการขาดดุลการค้าของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 4.336 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่การส่งออกร่วงลง 0.3% และการนำเข้าเพิ่มขึ้น 0.3% โดยการส่งออกของสหรัฐได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และอุปสงค์ที่อ่อนแอในต่างประเทศ