TRITN ชี้ลงทุนโครงการ “The Haven” ตั้งเป้าผลตอบแทนเฉลี่ย 20.4% ต่อปี
TRITN ชี้แจงการลงทุนโครงการ “The Haven” Leisure and Entertainment ธุรกิจใหม่เพื่อกระจายความเสี่ยง ตั้งเป้าสร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 20.4% ต่อปี, Pay back 5 ปี เข้าครองที่ดินในเขต EEC ด้วยงบ 1.4 พันล้านบาท ขณะมูลค่าประเมินสูงถึง 1.9 พันล้านบาท
นางสาว หลุยส์ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TRITN ชี้แจงการลงทุนในโครงการ “The Haven” โดยการรับโอนกิจการทั้งหมดจากบริษัท บ้านไร่เตชะอุบล โฮลดิ้งจำกัด (“บ้านไร่โฮลดิ้ง”) (รายการ EBT) ซึ่งถือหุ้นทั้งหมดในบริษัท บ้านไร่เตชะอุบล จำกัด (“บ้านไร่”) ครอบครองที่ดิน 732 ไร่ มูลค่าประเมิน 1,900 ล้านบาท (ราคาประเมิน) โดยการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 10,769 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.13 บาท รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 1,400 ล้านบาท ให้แก่บ้านไร่โฮลดิ้งซึ่งเป็นบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) แทนการชำระค่าตอบแทนด้วยเงินสด (Payment in Kind) (รายการ PP) จุดน่าสนใจคือพื้นที่บ้านไร่ตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
ทั้งนี้ TRITN ชี้แจงวัตถุประสงค์เพื่อกระจายความเสี่ยง ลุยในธุรกิจใหม่ สร้างรายได้ของบริษัท ด้วยการมุ่งเน้น ไปที่ lecture and Entertainment โดยที่จะมีการสร้างความแตกสร้างให้โครงการ มุ่งเน้นไปทางด้าน Standability และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โดย โครงการ “The Haven” บริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาและดำเนินให้บ้านไร่เป็นโครงการ “The Haven” หรือโครงการเพื่อการพักผ่อนและการนันทนาการ (Leisure and Entertainment) อย่างครบครับบนพื้นที่ EEC ด้วยคาดว่าจะเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพและสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ โครงการ “The Haven” ยังเป็นการกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจของบริษัทจากการมีหลากหลายธุรกิจ ลดการพึ่งพารายได้หลักจากธุรกิจงานก่อสร้างและธุรกิจพลังงาน อีกทั้งเพิ่มโอกาสในการต่อยอดธุรกิจอื่น ๆ ที่สนับสนุนธุรกิจดังกล่าว และคาดว่าจะใช้เวลาในการพัฒนาโครงการดังกล่าวประมาณ 3 ปีก่อนที่จะสามารถเปิดรับผู้เข้าชมได้หรือประมาณต้นปี 71
สำหรับ โครงการ Phase 1 บริษัทจะลงทุน 890 ล้านบาท ตามข้อชี้แจ้งและบริษัทมีโอกาสที่จะใช้ที่ดิน มูลค่า 1,900 บาท ตามราคาประเมินวางเป็นหลักประกันกู้ยืมเงินลงทุนกับสถาบันการเงิน หากแต่ไม่จำกัดเพียงวิธีหาเงินทุนในแบบเดียวด้วยบริษัทยังเล็งเห็นอีกหลายทางเลือกในการระดมทุน ซึ่งปัจจุบันอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่ที่ 1.94 เท่า ณ วันที่ 30 มิ.ย.67 และจะเปลี่ยนเป็น 0.70 เท่า ภายหลังการเพิ่มทุนตามรายการ PP จำนวน 1,400 ล้านบาท และหากมีการกู้ยืมเงินครบ จำนวนจะเปลี่ยนแปลงเป็น 1.10 เท่า และภายหลังการเพิ่มทุนตามรายการ PP ทั้งนี้