MONO ปิดพุ่ง 5% เก็งรับส่วนแบ่งรายได้ “พรีเมียร์ลีก” ปีละ 300 ล้านบาท ดันงบเทิร์นอะราวด์

MONO ปิดตลาดวันนี้พุ่งต่อ 5% สวนติดแคชบาลานซ์วันแรก โบรกรับส่วนแบ่งรายได้พรีเมียร์ลีกปีละไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ดันมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้น 1.80 บาท พลิกสถานการณ์กลับมามีกำไรสุทธิในปีหน้า ด้าน JAS รับหนังสือยืนยันลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพของทั้ง 6 ฤดูกาลแล้ว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 พ.ย.67) ราคาหุ้น บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MONO ปิดตลาดที่ระดับ 2.34 บาท บวก 0.12 บาท หรือ 5.41% สูงสุดที่ระดับ 2.34 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 189.49 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มองเห็นโอกาสการฟื้นตัวขึ้นของหุ้น MONO เร็วขึ้น จากลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก หรือ EPL ที่ทางบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS  เป็นผู้ได้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดมา เป็นปัจจัยที่เปลี่ยนเกมของ MONO โดยคาดว่ารูปแบบของรายได้ที่ MONO จะได้รับเป็นแบบการแบ่งรายได้กับทาง JAS โดยที่ MONO ไม่ต้องแบกรับค่าต้นทุนลิขสิทธิ์จาก JAS ซึ่งจะส่งผลให้ MONO สามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ และประเมินกำไรส่วนเพิ่มจากกรณีดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท/ปี

นอกจากนี้มีความเป็นไปได้ที่รูปแบบการแบ่งรายได้กับ Monomax จะอิงตัวเลขเดิมที่เคยจ่าย สำหรับ 3BB Giga TV ที่ให้ Mono ที่ 50 บาท/ราย/เดือน อิงตัวเลข 1 ล้านรายจะคิดเป็นรายได้ส่วนเพิ่มให้กับ Mono ที่ 600 ล้านบาท โดยต้นทุนส่วนใหญ่คือ ค่า Platform ที่มีอยู่แล้ว มีเพียงระบบ Cloud ที่ต้องเพิ่มเข้ามาเพื่อรองรับ และค่าการตลาด

ดังนั้นกำไรส่วนเพิ่ม MONO จะคิดเป็น 300 ล้านบาท/ปี เทียบกับกำไรปกติของ MONO ที่ไม่ถึง 100 ล้านบาท/ปี คิดเป็นกำไรส่วนเพิ่ม 3-4 เท่า ถ้าอิง per 20 เท่า จะเพิ่มมูลค่าหุ้นขึ้นมา 1.80 บาท  แต่หากอิงเป้าหมายสมาชิก 3 ล้านราย กำไรส่วนเพิ่มจะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 900 ล้านบาท

นายโสรัชย์ อัศวะประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รักษาการ) JAS เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22  พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา ทางบริษัทได้รับหนังสือแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรจาก The Football Association Premier League Limited (Premier League) ได้ลงนามยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า JAS ได้สิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว (Exclusivity right) ในการถ่ายทอดสดภาพและเสียงของรายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ เป็นระยะเวลารวม 6 ปี หรือ 6 ฤดูกาล ใน 3 ประเทศ

ได้แก่ ประเทศไทย ประเทศกัมพูชา และประเทศลาว อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการถ่ายทอดสด รีรัน และไฮไลต์ โดยเริ่มตั้งแต่ต้นฤดูกาลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพที่  2025/2026,  2026/2027, 2027/2028, 2028/2029,  2029/2030 และ 2030/2031 จะเริ่ม 2025/2026 วันที่ 16 ส.ค. 2568 เป็นต้นไป คิดเป็นมูลค่าลิขสิทธิ์ทั้งหมด  559,980,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 19,167,723,414 บาท

ทางพรีเมียร์ลีกได้ส่งหนังสือการลงนามยืนยันถึงการได้ลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพของ JAS ทั้ง 6 ฤดูกาล กลับมาให้เรียบร้อยแล้ว ขอยืนยันว่าการรับชมต้อง streaming ผ่าน Monomax เป็นหลัก รวมถึงชมผ่าน Smart TV ได้ ในเรื่องของราคาจะไม่เกิน 400 บาทต่อเดือน สามารถดูรายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ รวมถึงดูภาพยนตร์และซีรีส์ต่างประเทศได้ไม่จำกัด” นายโสรัชย์ กล่าว

อย่างไรก็ตามการได้รับลิขสิทธิ์ดังกล่าวในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ JAS และ MONO ในการร่วมกันขยายธุรกิจด้านคอนเทนต์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มาอย่างยาวนาน

Back to top button