ERW เด้ง 3% โบรกอัพเป้าใหม่ 5.20 บ. ชี้ Q4 ธุรกิจโรงแรมฟื้น หนุนกำไรปี 67 แตะพันล้านบาท
ERW บวก 3% โบรกมองไตรมาส 4/67 ธุรกิจโรงแรมฟื้นตัว ดันยอดเข้าพักเพิ่มขึ้น 87% คาดหนุนกำไรปี 67 แตะ 1.1 พันล้านบาท แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายใหม่ 5.20 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (23 ธ.ค.67) ราคาหุ้น บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW ณ เวลา 11:05 น อยู่ที่ระดับ 3.56 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 2.89% สูงสุดที่ระดับ 3.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 54.04 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ถึงทิศทางการดำเนอนงาน ERW ในไตรมาส 4/67 ว่าอัตราการเข้าพัก (OCR) ของ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กลับมาฟื้นตัวได้โดยกลับสู่ระดับปกติที่ 85-87% ในเดือนพฤศจิกายน เทียบกับ 60% ในไตรมาส 3/67 และเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนเป็นนัยว่า OCR ของโรงแรมในกลุ่ม 5 ดาวปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ ค่าห้องพักเฉลี่ยรายวัน (Average Daily Rate : ADR) ของโรงแรมกลุ่มนี้ก็ดีขึ้น 7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในเดือนพฤศจิกายนด้วย
ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าผลการดำเนินงานโดยรวมของกลุ่มโรงแรมน่าจะดีขึ้นจากอุปสงค์ในเดือนพฤศจิกายน ปรับตัวแข็งแกร่งขึ้น ท่ามกลางอุปสงค์ในกลุ่ม MICE ธุรกิจการจัดประชุม สัมมนา โดยที่ปัจจัยดังกล่าวนี้จะสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ มากยิ่งขึ้น ส่วนอัตราการเข้าพักของโรงแรมที่ไม่ใช่ Hop Inn น่าจะเร่งตัวขึ้นจาก 79% ในไตรมาส 3/67 สู่ระดับปกติ ราว 80-85% ในเดือนพฤศจิกายน
ขณะที่ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา ได้ปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยเมื่อเดือนกันยายนส่งผลให้อัตราการเข้าพักสูงขึ้นที่ 80% ในเดือนพฤศจิกายนพร้อมด้วย ADR ปรับตัวดีขึ้น อยู่ที่ 4,000 บาท เพิ่มขึ้น 10% จากระดับก่อนหน้า
สำหรับ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ บริษัทวางแผนที่จะปรับปรุงห้องแกรนด์บอลรูมด้วยการทยอยปรับปรุงห้องพักไปทีละชั้นในช่วงไตรมาส 3/68 ถึงไตรมาส 4/69 กรณีนี้อาจส่งผลต่ออัตราการเข้าพักราว 5% ส่วน โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ยังอยู่ระหว่างการต่อสัญญาเช่าระยะยาวกับภาครัฐ ซึ่งผลสรุปในขั้นสุดท้ายจะใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากที่ดินนี้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กระทรวงการคลัง
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปี 67 รายได้ต่อห้องต่อคืน (RevPar) ของ ERW อยู่ที่ 1,487 บาท ต่อคืน ส่วน OCR อยู่ที่ 79% และ ADR อยู่ที่ 1,876 บาทต่อคืน ซึ่งสูงกว่าในงวด 9 เดือนของปี 66 อยู่ที่ 1,417 บาทต่อคืน ราว 5%
ขณะที่ฝ่ายนักวิเคราะห์ปรับประมาณการกำไรใหม่ในปี 2567-2568 เนื่องจากต้นทุนทางการเงินและค่าใช้จ่ายภาษี สูงกว่าคาด ส่งผลให้คาดว่ากำไรสุทธิใหม่ของบริษัทปี 2567 จะเพิ่มจากเดิมเป็น 1,160 ล้านบาท ส่วนปี 2568 ลดลงจากเดิมอยู่ที่ 845 ล้านบาท แต่หากไม่รวมรายการพิเศษต่าง ๆ แล้ว คาดกำไรปกติอยู่ที่ 793 ล้านบาทในปี 2567 และในปี 2568 อยู่ที่ 845 ล้านบาททั้งนี้ การเพิ่มขึ้น 1% ของ ADR จะส่งผลบวกต่อกำไรเพิ่มขึ้นราว 3% ขณะที่ค่าเช่าที่ดินเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาท จะกระทบกำไรราว 0.1% โดยฝ่ายวิเคราะห์ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายใหม่เป็นสิ้นปี 2568 ที่ 5.20 บาท