กลุ่มแบงก์ร่วงหนัก ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง โดยหุ้นดอยช์แบงก์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปี แม้ว่าทางธนาคารได้ออกมายืนยันว่ามีเม็ดเงินสดเพียงพอที่จะชำระหนี้ก็ตาม นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่ดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้ Stoxx Europe 600 ปิดตลาดในแดนลบติดต่อกัน 7 วันทำการ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.6% ปิด (9 ก.พ.) ที่ 309.39 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,997.54 จุด ลดลง 68.77 จุด หรือ -1.69%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,879.40 จุด ลดลง 99.96 จุด หรือ -1.11% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,632.19 จุด ลดลง 57.17 จุด หรือ -1.00%
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนักและส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนแรงลงด้วย โดยเฉพาะหุ้นดอยช์แบงก์ที่ร่วงลง 4.3% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปี แม้นายจอห์น ไครอัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของธนาคารดอยช์แบงก์ ระบุว่า ทางธนาคารยังคงมีความแข็งแกร่ง เมื่อพิจารณาจากเงินทุนในระดับสูง และการกันสำรองความเสี่ยง ทั้งนี้ หุ้นดอยช์แบงก์ร่วงลงอย่างหนักนับตั้งแต่ธนาคารรายงานผลประกอบการที่ย่ำแย่ในวันที่ 28 ม.ค. โดยดอยช์แบงก์เปิดเผยว่า ธนาคารประสบภาวะขาดทุน 6.8 พันล้านยูโร (7.5 พันล้านดอลลาร์) ในปีที่แล้ว
ส่วนหุ้นธนาคารอื่นๆนั้น หุ้นเครดิตสวิส ร่วงลง 8.4% หุ้นยูนิเครดิต เอสพีเอ ดิ่งลง 7.9% หุ้นยูบีเอส กรุ๊ป ร่วงลง 5.6% หุ้นสเวดแบงก์ เอบี ซึ่งเป็นธนาคารปล่อยกู้จำนองรายใหญ่ของสวีเดน ร่วงลง 5.7% และหุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ ดิ่งลง 4.4% หุ้นกลุ่มผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นอาร์เซลอร์ มิททัล ดิ่งลง 11% และหุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง 11% เช่นเดียวกัน