PCE ยันไม่กระทบ! ราคาน้ำมันปาล์มโลกลด มั่นใจรายได้ปี 67 โตเข้าเป้า 15%
PCE ยันไม่ได้รับผลกระทบราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกปรับลดลง เหตุ Stock ภายในไทยต่ำ ขณะที่วิกฤตการณ์น้ำท่วม ทำให้ราคาในประเทศยืนสูงกว่าตลาดโลก มั่นใจรายได้ปี 67 เติบโต 10-15% ตามเป้า
นายพรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล รองกรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PCE ผู้นำอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มแบบครบวงจรที่มีความพร้อมการจัดการระบบซัพพลายเชน เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกปรับตัวลดลง แต่ในส่วนของในประเทศไทยนั้นราคายังคงที่ เนื่องจากปัจจุบัน Stock ภายในไทยต่ำ รวมทั้งกับวิกฤตการณ์น้ำท่วม จึงทำให้ราคาน้ำมันปาล์ม (CPO) ไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมันปาล์ม (CPO) ในตลาดโลก
“ราคาน้ำมันปาล์มดิบในไทยยังไม่ได้รับผลกระทบจากการลดลงของราคาตลาดโลกเท่าไรนัก เนื่องจากผลผลิตปาล์มสดยังคงลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นไตรมาสที่ 4/2567 โดยคาดการณ์ ณ เดือนธันวาคม อยู่ที่ 1 ล้านตัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายนราว 2% และลดลงจากช่วงเดียวกันในปี 2566 ราว 8%”
ทั้งนี้จากการที่ฝนตกหนักในบริเวณภาคใต้ของประเทศไทยซึ่งเป็นแหล่งปลูกปาล์มน้ำมัน ประกอบกับบางพื้นที่มีน้ำท่วมขังไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลปาล์มสดได้ อาจส่งผลให้ผลผลิตปาล์มสดที่ออกสู่ตลาดมีแนวโน้มต่ำกว่าคาด
ขณะที่ความต้องการน้ำมันปาล์มดิบภายในประเทศ ณ เดือนธันวาคม ยังคงอยู่ในระดับสูงราว 200,000 ตัน ทั้งจากการอุปโภคในภาคพลังงานและการบริโภคในอุตสาหกรรมอาหารและอื่นๆ ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันปาล์มดิบคงคลังต่ำกว่า 190,000 ตัน แล้ว (ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2567)
โดยระดับราคาผลปาล์มสดภายในประเทศในสัปดาห์ที่ผ่านมา เคลื่อนที่อยู่ระหว่าง 7.30-8.60 บาท/กิโลกรัม สำหรับน้ำมันปาล์มดิบระดับราคาภายในประเทศเคลื่อนที่อยู่ระหว่าง 43.25-44.50 บาท/กิโลกรัม ขณะที่ราคาในตลาดโลกปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 4,500 ริงกิตมาเลเซีย/ตัน หรือต่ำกว่า 35 บาท/กิโลกรัม (ไม่รวม Export Tax 10%) ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าราว 7-8%
นายพรพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากดีมานด์การใช้น้ำมันปาล์มในประเทศที่ยังคงเติบโต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยประเมินว่าในปี 2567 การบริโภคน้ำมันปาล์มในประเทศ และความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบ (CPO) จะขยายตัวเฉลี่ยระดับ 6-7% ผลักดันให้รายได้รวมในปี 2567 เติบโต 10-15% ตามเป้าหมายที่วางไว้
ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือน ปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการกว่า 21,747.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,051.9 ล้านบาท หรือ 16.3% และมีกำไรสุทธิ 400.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86.7% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 214.5 ล้านบาท และสูงกว่ากำไรรวมทั้งปี 2566 ที่อยู่ในระดับ 310.73 ล้านบาท