GEL ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตกระโดดเป็น 2-2.5 พันลบ.ดัน บ.ลูกเข้า SET
GEL ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตกระโดดเป็น 2-2.5 พันลบ.ดัน บ.ลูกเข้า SET
นายธิติพงศ์ ตั้งพูนผลวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEL เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 59 เพิ่มขึ้นมาที่ 2-2.5 พันล้านบาท ซึ่งเติบโตก้าวกระโดดจากปี 58 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 1.3 พันล้านบาท โดยรายได้ส่วนใหญ่ในปีนี้จะมาจากการทยอยรับรู้มูลค่างานในมือ (Backlog) ทั้งหมดที่มีอยู่กว่า 1.2 พันล้านบาท ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรสุทธิปี 59 จะอยู่ที่ 7-8 % และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 12-15% ซึ่งเป็นไปตามยอดขายที่เพิ่มขึ้นและการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
ในปีนี้บริษัทจะมีรายได้จากการจำหน่ายวัสดุก่อสร้างในเมียนมาร์เพิ่มขึ้นเป็นราว 200 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 50 ล้านบาท เนื่องจากความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างในเมียนมาร์เพิ่มจึ้นมากหลังจากที่ได้มีการเร่งกระตุ้นก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น ถนน และอาคาร รวมไปถึงที่พักอาศัย
ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากธุรกิจจำหน่ายเสาเข็ม 45% พรีแคส 45% ส่วนที่เหลือเป็นการจำหน่ายปูนซีเมนต์และคอนกรีต โดยจะมาจากงานในส่วนภาคเอกชน 80% และงานทางภาครัฐราว 20% ซึ่งบริษัทมีความตั้งใจจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากงานภาครัฐให้มากขึ้นจากการเข้าไปรับงานกับผู้รับเหมารายอื่นๆ
นายธิติพงศ์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนจะสร้างโรงงานลวดแรงดึงสูง กำลังการผลิต 4 หมื่นตัน/ปี คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 700 ล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดในมือ 300 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะมาจากการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน ซึ่งบริษัทยังมีความสามารถในการกู้เงินได้อีกจำนวนมาก เนื่องจากมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E ) อยู่ 1 เท่า โดยนโยบายจะรักษาระดับให้ไม่เกิน 2 เท่า อย่างไรก็ดีโรงงานดังกล่าวจะสามารถดำเนินการได้ในช่วงไตรมาส 1/60
บริษัทมีแผนจะนำ บมจ.แมคทริค (MCTRIC) ซึ่งประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและงานติดตั้งระบบ โดย GEL มีสัดส่วนการถือหุ้นใน MCTRIC จำนวน 32.65% เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในปีนี้ โดยจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ภายในไตรมาส 1/59 ซึ่งภายหลังจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จะทำให้ GEL เหลือสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 20%
ส่วนแผนการซื้อหุ้นคืนของบริษัทนั้น บริษัทมีความตั้งใจจะดำเนินการซื้อหุ้นคืนให้ครบตามกำหนดจำนวน 180 ล้านหุ้น ซึ่งปัจจุบันมีการซื้อไปแล้วจำนวน 113 ล้านหุ้น