BTS บวก 2% หลัง “กทม.” จ่ายหนี้ 1.43 หมื่นลบ. ลุ้นปี 68 เทิร์นอะราวด์
BTS บวกต่อ 2% หลัง “กทม.” จ่ายหนี้ค่าจ้างเดินรถ 1.43 หมื่นล้านบาท กดหนี้ต่อทุนเหลือ 1.3 เท่าจากเดิม 2.4 เท่า เล็งเจรจาหนี้ก่อนที่เหลืออีก 3 หมื่นล้านบาท ต้นเดือน ม.ค.68 ด้าน โบรกลุ้นผลงานเทิร์นอะราวด์ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6.49 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (30 ธ.ค.67) ราคาหุ้น บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ณ เวลา 11:45 น. อยู่ที่ระดับ 5.95 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 1.71% สูงสุดที่ระดับ 6.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 143.00 ล้านบาท
โดย นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา ผู้อำนวยการใหญ่สายธุรกิจ MOVE และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ในเครือ BTS เปิดว่า เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ที่ผ่านมา บริษัทได้รับเงินค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว จำนวน 14,374 ล้านบาท จากกรุงเทพมหานคร (กทม.) แล้ว โดยมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย 1% ตามกฎหมาย ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิม ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด
ทั้งนี้ภายหลังจาก BTS ได้รับเงินก้อนดังกล่าวแล้วจะทำให้หนี้สินต่อทุน หรือ D/E ลดเหลือเพียง 1.3 เท่า (ณ วันที่ 27 พ.ย.67) จากเดิม 2.4 เท่า (ณ วันที่ 30 ก.ย.67) โดยบริษัทจะทยอยชำระหนี้ที่ครบกำหนดก่อน และเก็บไว้ส่วนหนึ่งเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท เพื่อรอชำระหนี้ส่วนที่เหลือที่ยังไม่ครบกำหนด
ส่วนการเจรจากับกทม. ในหนี้ O&M โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนที่เหลือ อีก 3 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะสามารถหารือกันได้ในต้นเดือน ม.ค.68 นี้ หลังสภากทม.เปิดสมัยประชุมสามัญ
โดยหนี้ดังกล่าว เป็นค่าจ้างเดินรถที่ BTSC ได้ยื่นฟ้องเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 22 พ.ย.65 ปัจจุบันอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลชั้นต้น จำนวน 11,811 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดหนี้ O&M ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในเส้นทางส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ตั้งแต่เดือน พ.ย.65 ถึงเดือน มิ.ย.67 ประมาณ 13,513 ล้านบาท ที่ยังไม่ได้ฟ้องศาล
นอกจากนี้ BTS ยังพร้อมเจรจากับภาครัฐ กรณีซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว, สายสีชมพู และสายสีเหลือง หากได้ราคาที่เหมาะสม ตามนโยบาย “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” อย่างไรก็ตาม แม้จะขายสัมปทานไปแล้ว บริษัทก็ยังคงรับจ้างเดินรถอยู่ ซึ่งมีรายได้แน่นอนสม่ำเสมอ
นายนภาพล จีระกุล สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) เขตบางกอกน้อย ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญเพื่อศึกษาปัญหาของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า ได้หารือกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับแนวทางการชำระหนี้ O&M โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนที่เหลือ โดยคาดว่า จะมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือสภากทม. ในเดือน ม.ค.68 นี้ โดยประชุมบอร์ดวิสามัญฯ ได้มอบหมายให้ผู้ว่าฯ กทม. ไปเจรจากับ BTS เพื่อขอลดดอกเบี้ย ก่อนจะสรุปแนวทางชำระหนี้กันอีกครั้ง เพื่อลดภาระดอกเบี้ย ที่มีวันละ 7 ล้านบาท
ขณะที่ นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ หัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรณี BTS ได้รับชำระหนี้ O&M โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว กว่า 1.43 หมื่นล้านบาท จากกทม. ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่มาก ซึ่งจะส่งให้สถานะทางการเงินของบริษัทดีขึ้น รวมทั้งมีโอกาสต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
“เงินก้อนนี้ถือว่ามีผลต่อฐานะทางการเงินของบีทีเอสมาก เพราะเป็นเงินก้อนใหญ่ ธุรกิจของเขามีโอกาสที่ต่อยอดได้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา” นายกรภัทร กล่าว
ทั้งนี้ มองว่า ปี 2568 BTS มีโอกาสเทิร์นอะราวด์สูง จากปัจจัยหนุนหลักใน 2 เรื่อง ปัจจัยแรก คือ หนี้ก้อนที่เหลืออีก 3 หมื่นล้านบาท จากค่า O&M โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว นอกจากนี้ยังมีโอกาสขายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว, สีชมพู และสีเหลือง เนื่องจากรัฐต้องการเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งจะเป็นการอัพไซด์ต่อราคาหุ้น BTS ในปีหน้า โดยให้ราคาเป้าหมาย อยู่ที่ 6.49 บาท