CPF เด้ง 1% โบรกชี้กำไรครึ่งแรกปี 68 แจ่ม รับราคาเนื้อสัตว์พุ่ง-ต้นทุนลด

CPF บวก 1% โบรกชี้ท็อปพิก กลุ่มส่งออกอาหาร คาดกำไรครึ่งแรกปี 68 สดใส หลังราคาเนื้อสัตว์พุ่ง ต้นทุนอาหารลด แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 32 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (2 ม.ค.67) ราคาหุ้น บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ณ เวลา 15.00 น. อยู่ที่ระดับ 23.10 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 1.32% สูงสุดที่ระดับ 23.20 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 22.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 49.69 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุผ่านบทวิเคราะห์ถึง CPF หลังคาดการณ์ปี 2568 เป็นปีแห่งโอกาสทางการเติบโต เนื่องจากผู้บริหารของ CPF มีมุมมองเชิงบวกต่อปีนี้จากปัจจัยขับเคลื่อนหลัก ได้แก่ ราคาเนื้อสัตว์ที่สูงขึ้น, ต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง และประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้น โดยสิ่งที่สำคัญคือกลยุทธ์ Agri-Sustain-ovation” ซึ่งผสมผสานความยั่งยืนและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มอัตรากำไรสูงสุด และหนุนกำไรในอนาคต จึงชอบ CPF มากที่สุดในกลุ่มส่งออกอาหารฯ

นางกอบบุญ ศรีชัย ผู้บริหารสูงสุดสายงานกิจการองค์กรและลงทุนสัมพันธ์ และนายวรวุฒิ ศิริตันติกร และนางสาวปรางค์ ชุดาศรี รองกรรมการผู้จัดการ สำนักลงทุนสัมพันธ์และตลาดทุน CPF ร่วมแสดงความมั่นใจอย่างสูงว่าโมเมนตัมผลประกอบการที่แข็งแกร่งจะยังคงดำเนินต่อไปในครึ่งปีแรกของปี 2568 จากปัจจัยที่ช่วยหนุนผลประกอบการให้ปรับตัวดีขึ้น ได้แก่ ราคาเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง, ขนาดของธุรกิจที่ไม่ทำกำไรลดลง และประสิทธิภาพการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นทั่วทั้งซัพพลายเชน CPF ได้ชี้ให้เห็นว่าปัจจัยดังกล่าวเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่ผ่านมา และในอนาคตอันใกล้

ขณะเดียวกัน ผู้บริหารของ CPF เน้นย้ำถึงนวัตกรรมที่เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนความยั่งยืนในทุกมิติของ ESG โดยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต คุณภาพผลิตภัณฑ์ ความปลอดภัยของอาหาร และลดขยะ สิ่งที่กำลังดำเนินการ ได้แก่ การทําฟาร์มอัจฉริยะ, การใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการผลิตอาหารสัตว์เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน, การใช้ AI และการชั่งน้ำหนักไก่ด้วย 3D,

รวมทั้ง การแปรรูปของเสียจากการผลิตเป็นก๊าซชีวภาพและชีวมวลสำหรับพลังงาน ยังร่วมมือในด้านบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนและน้ำมันเชื้อเพลิงการบิน CPF (SAF) โดยใช้น้ำมันปรุงอาหารจากร้าน Chester’s และ Five-Star กลยุทธ์ “Agri-Sustain-ovation” นี้ไม่เพียงช่วยบรรเทาผลกระทบจากความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ แต่ยังช่วยดึงดูดคำสั่งซื้อจากลูกค้าในสหภาพยุโรป ที่ให้ความสำคัญกับแนวทางปฏิบัติด้านความยั่งยืน

นอกจากนี้ อัตรากำไรจะขยายตัวในปี 2568 โดย CPF คาดการณ์ว่าราคาเนื้อสัตว์จะสูงขึ้นจากปีก่อน และต้นทุนอาหารสัตว์จะลดลงจากปีก่อน ซึ่งจะส่งผลให้อัตรากำไรขยายตัว CPF คาดว่าราคาไก่ในปี 2568 จะอยู่ที่ 38 บาทต่อกิโลกรัม เทียบกับต้นทุนการผลิตที่ 36 บาทต่อกิโลกรัม

พร้อมคาดการณ์ว่าราคาหมูในประเทศจะอยู่ที่ 72 บาทต่อกิโลกรัม เทียบกับต้นทุนที่ 67 บาทต่อกิโลกรัม ราคาหมูเวียดนามคาดว่าจะอยู่ที่ 64,000 ดองต่อกิโลกรัม เทียบกับต้นทุนที่ 43,000 ดองต่อกิโลกรัม และราคาหมูจีนคาดว่าจะอยู่ที่ 17 หยวนต่อกิโลกรัม เทียบกับต้นทุนที่ 15 หยวนต่อกิโลกรัม

ขณะที่ ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์กำไรหลักของ CPF ในปี 2568 จะลดลงจากปีก่อน แต่ขอแนะนำให้นักลงทุนมุ่งเน้นที่ผลประกอบการในครึ่งปีแรกของปี 2568 ซึ่งคาดว่าจะเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะธุรกิจยังคงมีความผันผวนจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ แต่สภาพแวดล้อมของอุปสงค์และอุปทานในปัจจุบัน ทำให้มั่นใจได้ว่าพื้นฐานแข็งแกร่ง แม้จะมีความท้าทาย แต่กลยุทธ์และตำแหน่งทางการตลาดของ CPF ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพในการฟื้นตัว และการเติบโตในอนาคต โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 30 บาท

Back to top button