KBS ร่วง 3% โบรกมองกระทบทางอ้อม หลัง “จีน” ระงับนำเข้า “น้ำเชื่อม” จากไทย
KBS ลบ 3% เซ่นประเด็น “จีน” ระงับนำเข้า “น้ำเชื่อม” จากไทย โบรกมองกระทบทางอ้อม หากสถานการณ์ยืดเยื้ออาจกระทบต่อยอดขายน้ำตาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 ม.ค.68) ราคาหุ้นบริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ KBS ณ เวลา 10:08 น. อยู่ที่ระดับ 5.55 บาท ลบ 0.15 บาท หรือ 2.63% สูงสุดที่ระดับ 5.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.55 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.86 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS ระบุในบทวิเคราะห์เกี่ยวกับประเด็น จีนระงับการนำเข้าน้ำเชื่อมจากไทย 2 รายการ ได้แก่ Syrup และ Pre-mixed powder โดยอ้างว่าพบความเสี่ยงด้านความปลอดภัย หลังหน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารส่งออก-นำเข้าของจีน (GACC) ได้รับการร้องเรียนว่าโรงงานผู้ผลิตน้ำเชื่อม/น้ำตาลผสม บางแห่งมีสุขอนามัยไม่ได้ตามเกณฑ์ จึงระงับการขอขึ้นทะเบียนโรงงานผู้ผลิตส่งออกน้ำเชื่อม/น้ำตาลผสมรายใหม่ของไทย และระงับการนำเข้าสินค้าทั้ง 2 รายการ ที่ส่งออกจากไทยหลังวันที่ 10 ธ.ค. เป็นต้นมา
โดยมองว่ากระทบทางลบต่อกลุ่มน้ำตาล (KSL, BRR, KTIS, KBS) ทางอ้อม อาจกระทบต่อการขายน้ำตาลในประเทศ ที่ขายให้กับผู้ผลิตและส่งออกน้ำเชื่อม ซึ่งปัจจุบันมี 74 ราย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก GACC ประกอบด้วยบริษัทไทย และจีน ที่เข้ามาตั้งโรงงานในไทยและส่งออกไปจีน
ทั้งนี้ ไทยมีผลผลิตน้ำตาลทรายราวปีละ 8-9 ล้านตัน และใช้ในประเทศ 30% หรือราว 2.5 ล้านตัน (อีก 70% เป็นการส่งออกทั้งน้ำตาลทรายดิบ ทรายขาว และกากน้ำตาล) การขายในประเทศแบ่งเป็นขายน้ำตาลทรายปลีกให้ผู้บริโภค 57% และอีก 43% ขายให้ภาคอุตสาหกรรม เพื่อผลิตอาหารและเครื่องดื่ม
ขณะที่มูลค่าส่งออกน้ำตาลทรายและกากน้ำตาลปี 66 ของไทยอยู่ที่ USD3.52b (เป็นน้ำตาลทรายดิบ 50% น้ำตาลทรายขาว 49% และอื่นๆ 1%) โดยส่งไปอินโดมากสุด 31% รองมาคือฟิลิปปินส์ 11% ส่วนจีนอันดับ 10 ราว 2.4%
ส่วนมูลค่าส่งออกน้ำเชื่อมและน้ำตาลผสม (พิกัด 170290) อยู่ที่ USD864m โดยส่งออกไปจีนมากที่สุด 96% ของมูลค่าส่งออกน้ำเชื่อมและน้ำตาลผสม
อย่างไรก็ตาม นอกจากอ้างเรื่องความปลอดภัยด้านโรงงานแล้ว ส่วนหนึ่งอาจมาจากผลผลิตน้ำตาลของจีนที่เพิ่มขึ้น จึงต้องการใช้วัตถุดิบในประเทศ ทั้งนี้จีนนำเข้าน้ำตาลแปรรูป (น้ำเชื่อม น้ำผึ้งเทียม และสารให้ความหวานอื่นๆ) จากไทยมากสุดถึง 87% ของมูลค่านำเข้าทั้งหมด เพราะ FTA อาเซียน-จีน ทำให้ไทยได้รับยกเว้นภาษีนำเข้าจีน 0% และไทยเป็นผู้ผลิตน้ำตาลมากเป็นอันดับ 5 และส่งออกอันดับ 2 ของโลก
ทั้งนี้ คนที่ถูกกระทบโดยตรงคือผู้ส่งออกน้ำเชื่อม ส่วนโรงงานน้ำตาลยังส่งออกน้ำตาลทรายได้ตามปกติ / แต่หากการถูกระงับจากจีนยังยืดเยื้อต่อไป อาจกระทบต่อปริมาณขายน้ำตาลให้กับภาคอุตสาหกรรมบางส่วน เบื้องต้นมองกระทบจำกัด เพราะส่วนใหญ่เป็นการขายให้ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มมากกว่า